
amb168 สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ แตกง่าย แจกจริง 2025
ยินดีต้อนรับสู่ amb168 — จุดหมายปลายทางของนักเดิมพันยุคใหม่ที่กำลังมองหา สล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ ที่แตกง่าย จ่ายจริง และมาพร้อม โปรโมชั่นเครดิตฟรี ที่ให้มากกว่าใคร!
หากคุณเบื่อกับเว็บสล็อตที่ “ล็อกยูส ถอนยาก หรือหลอกให้ฝากก่อน” เว็บของเราคือคำตอบที่คุณต้องลองด้วยตัวเอง เพราะ amb168 ให้คุณ เริ่มเล่นด้วยเครดิตฟรี 50 โดยไม่ต้องลงทุนสักบาท พร้อมระบบออโต้เต็มรูปแบบ ใช้งานง่ายทั้งบนมือถือและคอมพิวเตอร์

ทำไม amb168 ถึงเป็นเว็บสล็อตที่คนเลือกมากที่สุดในปี 2025?
ในยุคที่มีเว็บสล็อตเกิดขึ้นทุกวัน สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้เล่นไม่ใช่แค่ “โปรโมชั่น” แต่คือ “ความจริงใจ” และ “ความโปร่งใส” ซึ่งคุณจะพบได้ที่นี่ที่เดียว amb168 เป็น เว็บสล็อตเว็บตรง ที่เปิดให้บริการแบบไม่ผ่านเอเย่นต์ ทุกการฝาก-ถอนเกิดขึ้นตรงกับระบบของบริษัทโดยไม่ผ่านคนกลาง
เราการันตีความมั่นคงจากผู้เล่นมากกว่า 10,000 ยูสเซอร์ต่อเดือน และมีรีวิวการถอนเงินทุกวันจากลูกค้าจริงทั่วประเทศ!
- ✅ เว็บตรงของแท้ 100% ได้รับใบรับรองจากต่างประเทศ
- ✅ สล็อตแตกง่าย โบนัสออกทุกวัน
- ✅ ระบบออโต้เต็มรูปแบบ ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ
- ✅ แจกเครดิตฟรี 50 แค่สมัคร ยืนยันเบอร์
- ✅ รองรับมือถือทุกระบบ Android / iOS
เริ่มเล่นสล็อตเว็บตรงกับ amb168 วันนี้ รับเครดิตฟรีทันที!
สมัครง่าย ใช้เบอร์โทรศัพท์มือถือ ยืนยัน OTP แล้วเข้าเล่นได้เลย ไม่ต้องแชร์ ไม่ต้องผูกบัญชีซับซ้อน amb168 ออกแบบระบบให้เหมาะกับผู้เล่นไทย เข้าใจง่าย ใช้งานได้แม้ไม่เคยเล่นสล็อตมาก่อน

🎁 เครดิตฟรี 50 จาก amb168 – แจกจริง ไม่ต้องฝากก่อน
ที่ amb168 เราเข้าใจว่าผู้เล่นใหม่มักลังเลก่อนตัดสินใจฝากเงินจริง เพราะฉะนั้นเราจึงขอมอบ เครดิตฟรี 50 ให้กับสมาชิกใหม่ทุกคนที่สมัครกับเราในปี 2025 โดยไม่มีเงื่อนไขซับซ้อน ไม่ต้องแชร์ ไม่ต้องแอดไลน์!
เพียงแค่กรอกเบอร์มือถือของคุณ แล้วรับรหัส OTP เพื่อยืนยันตัวตน ระบบจะแจกเครดิตฟรี 50 เข้าบัญชีอัตโนมัติภายในไม่เกิน 30 วินาที ใช้เล่นได้ทุกเกมทั้งสล็อต ยิงปลา และคาสิโนสด
📝 วิธีขอรับเครดิตฟรี 50 จาก amb168 (3 ขั้นตอนง่าย ๆ)
- สมัครสมาชิก – คลิกปุ่มสมัคร แล้วกรอกเบอร์โทรศัพท์
- ยืนยัน OTP – รับรหัสยืนยันผ่าน SMS แล้วกรอกให้ถูกต้อง
- รับเครดิตฟรี – ระบบเติมเครดิต 50 บาทให้อัตโนมัติทันที

📌 เงื่อนไขการใช้เครดิตฟรี (แบบโปร่งใส ไม่มีหมกเม็ด)
- ✅ เล่นได้เฉพาะเกมสล็อต / ยิงปลา / คาสิโนบางเกม
- ✅ ทำยอดเทิร์นเพียง 3 เท่า (150 บาท) ก็สามารถถอนเงินได้ทันที
- ✅ จำกัด 1 ยูสเซอร์ / 1 เบอร์ / 1 สิทธิ์ เท่านั้น
- ✅ ไม่ต้องแชร์ / ไม่ต้องแอดไลน์ / ไม่ต้องฝากก่อน
หมายเหตุ: เครดิตฟรี 50 นี้เป็นโปรเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เล่นใหม่ได้ทดลองระบบของเราโดยไม่ต้องเสี่ยงลงทุนก่อน
💡 ทำไม amb168 ถึงกล้าแจกเครดิตฟรี 50?
เราเชื่อว่า ความโปร่งใสและคุณภาพของระบบ จะทำให้ผู้เล่นที่ลองแล้ว “อยู่ต่อด้วยความสมัครใจ” ไม่ใช่แค่หวังของฟรีแล้วหายไป นี่คือเหตุผลที่ amb168 กล้าให้เครดิตฟรี 50 จริง แบบไม่มีเงื่อนไขแอบแฝง!
คุณสามารถเริ่มปั่นสล็อตได้โดยไม่มีเงินฝากเลย ลองระบบก่อน ถ้าชอบแล้วค่อยเติมเงินเอง – เพราะความมั่นใจในเว็บตรงของแท้ คือสิ่งที่เรายึดถือ
🎯 สมัคร amb168 ตอนนี้ รับเครดิตฟรี 50 ทันที
อย่ารอช้า! โปรโมชั่นนี้มีจำนวนจำกัดต่อวัน สมัครตอนนี้เพื่อรับเครดิตฟรีก่อนใคร → ไม่มีขั้นต่ำ ถอนได้จริง ถ้าเล่นได้!

🎰 สล็อตแตกง่าย amb168 – จัดเต็มทุกค่าย จ่ายจริงทุกยูส
amb168 คือสวรรค์ของสายปั่นตัวจริง เพราะเราให้บริการเฉพาะ ค่ายสล็อตที่แตกง่าย และได้รับการยอมรับจากผู้เล่นทั่วเอเชีย ด้วยระบบ RTP สูง มากกว่า 96% ทุกเกม พร้อมฟีเจอร์โบนัสสุดอลังการ เช่น ซื้อฟรีสปิน, แจ็กพอตสะสม, และโหมด Auto-play ไม่ต้องคลิกเอง
เราเลือกเกมที่ “จ่ายดี + ภาพสวย + ไม่ล็อกยูส” เท่านั้น เพื่อให้คุณสนุกกับการลุ้นรางวัลได้อย่างมั่นใจ และไม่รู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ
🔥 รวมค่ายสล็อตแตกง่ายที่คนเล่นมากที่สุด
- PG SLOT – ภาพสวย ฟีเจอร์เยอะ ซื้อฟรีสปินได้
- JOKER GAMING – แจ็กพอตแตกง่าย สายยิงปลาก็ห้ามพลาด
- PRAGMATIC PLAY – เกมดังอย่าง Sweet Bonanza และ Gates of Olympus
- SLOTXO – เกมแนวคลาสสิก เล่นง่าย ไม่ซับซ้อน
- RED TIGER / EVOPLAY / SPADEGAMING – ค่ายนอกที่ RTP สูง จ่ายหนัก
ทุกเกมสามารถทดลองเล่นได้ฟรีก่อนฝากเงิน และสามารถใช้เครดิตฟรี 50 ทดลองหมุนได้ด้วย!
🔐 amb168 ไม่ล็อกยูส – ความยุติธรรมที่ผู้เล่นทุกคนคู่ควร
เราเข้าใจดีว่า ผู้เล่นหลายคนเคยผิดหวังจากเว็บที่ “ล็อกยูสหลังแตก” เล่นได้ช่วงแรก พอเริ่มบวกก็โดนตัดโบนัส หรืออัตราออกลดลงแบบไม่มีเหตุผล แต่ที่ amb168 ไม่มีการแทรกแซง ทุกยูสเซอร์มีโอกาสแตกเท่ากัน 100%
เรายืนยันความแฟร์จากสถิติบิลถอนรายวันของลูกค้าที่ “เล่นแตกแล้วถอนสำเร็จ” แบบไม่มีลิมิต — ไม่ว่าคุณจะเล่น 1 บาท หรือ 10,000 บาท ระบบเราจะจ่ายคุณแบบเท่าเทียม!
🚀 เริ่มปั่นสล็อตแตกง่าย amb168 วันนี้ รับโบนัสแรกเข้าฟรี
ไม่ว่าคุณจะชอบสล็อตแนวไหน เกมใหม่หรือคลาสสิก amb168 มีครบทุกแนว ทุกค่าย พร้อมแจก เครดิตฟรี 50 ให้คุณได้ลองหมุนจริง ถอนได้จริง ไม่มีการดักระบบใด ๆ

📝 สมัครสล็อตเว็บตรง amb168 ง่าย ๆ ใน 1 นาที
เรารู้ว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่อยากเสียเวลาไปกับขั้นตอนสมัครที่ยุ่งยาก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ amb168 ออกแบบระบบสมัครสมาชิกให้ เรียบง่าย รวดเร็ว โดยไม่ต้องส่งเอกสาร ไม่ต้องแอดไลน์ และไม่ต้องใช้บัญชีโซเชียลใด ๆ ทั้งสิ้น
คุณสามารถเริ่มเล่นได้ทันทีเพียงกรอก เบอร์มือถือ แล้วทำการ ยืนยันรหัส OTP เพื่อสร้างบัญชี จากนั้นเข้าสู่ระบบ เลือกเกม แล้วเริ่มลุยได้ทันที!
- 1. คลิกปุ่ม “สมัครสมาชิก”
- 2. กรอกเบอร์มือถือ
- 3. รับรหัส OTP และยืนยัน
- 4. เข้าระบบ พร้อมรับเครดิตฟรีทันที

💳 ระบบฝาก-ถอนออโต้ ปลอดภัย 100%
amb168 ใช้ระบบ Auto Banking API เชื่อมตรงกับธนาคารไทยชั้นนำทุกแห่ง โดยไม่ต้องแปะสลิปหรือแจ้งแอดมิน คุณสามารถฝากหรือถอนได้ทันทีภายในเวลาเพียง 10–30 วินาที
- ✅ ฝากขั้นต่ำเพียง 1 บาท
- ✅ ถอนเงินได้สูงสุดถึง 1,000,000 บาท/ครั้ง
- ✅ ไม่มีค่าธรรมเนียม
- ✅ ระบบเข้ารหัสข้อมูลแบบ 256-bit SSL
🚫 amb168 ไม่มีระบบล็อกยูส 100% – เล่นได้ก็ถอนไปเลย
หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่ผู้เล่นสล็อตเจอบ่อย คือ “เล่นได้ตอนแรก แต่พอเริ่มแตกจริง ระบบกลับล็อกยูสจนแตกยากทันที” ซึ่งที่ amb168 ไม่มีทางเกิดเหตุการณ์แบบนั้น เราให้ความสำคัญกับความยุติธรรมเป็นอันดับ 1
ทุกยูสเซอร์ที่สมัครกับเราจะได้รับ ค่า RTP เดิมจากค่ายเกม ไม่มีการปรับลด % แจ็กพอต ไม่มีการแทรกแซงอัลกอริทึมใด ๆ ผู้เล่นสามารถมั่นใจได้ว่า ถ้าเล่นได้ → ถอนออกได้ทันที
“แตกมาสามวันติด ๆ ถอนรวม 8 หมื่นบาท amb168 ไม่เคยหัก ไม่เคยล็อก ไม่เคยดึงโบนัส” – คุณเต้ย, ผู้เล่นประจำจากชลบุรี
✅ สล็อตไม่ล็อกยูส มีจริงที่ amb168
ถ้าคุณกำลังมองหาเว็บที่ให้มากกว่าแค่ “โปรแรง” แต่ยัง “แฟร์กับผู้เล่น” amb168 คือคำตอบเดียวของคุณในปี 2025 เว็บตรงแท้ ไม่ล็อกยูส ถอนได้ทุกยอด ฝากถอนออโต้ในไม่กี่วินาที

🌟 amb168 ดีไหม? ฟังเสียงจริงจากผู้ใช้งานทั่วไทย
ถ้าคุณยังลังเลว่า amb168 เป็น เว็บสล็อตเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ ที่เชื่อถือได้จริงไหม เราขอนำเสนอเสียงจากผู้เล่นจริงที่ใช้บริการกับเรามาแล้วนับพันคนทั่วประเทศ
“สมัครง่ายมาก แค่ยืนยันเบอร์ก็ได้เครดิตฟรี 50 แล้ว ที่สำคัญคือถอนเงินได้จริง ถอนตอนตี 2 เงินเข้าไวมาก!” – คุณมายด์, เชียงใหม่
“เล่นมาหลายเว็บแต่ amb168 คือเว็บที่ ‘แตกแล้วถอนจริง’ ครั้งแรกเล่นได้ 3,200 ถอนเต็มไม่มีหัก ไม่มีเรื่องเยอะเลยครับ” – คุณนนท์, กรุงเทพฯ
“ระบบไม่ล็อกยูส เล่นได้ทุกเกม ชอบตรงที่ไม่ต้องแอดไลน์ ไม่ต้องแชร์ให้วุ่นวาย สมัครง่าย ถอนง่าย” – คุณแนท, ขอนแก่น
🔒 ความน่าเชื่อถือที่คุณตรวจสอบได้
- ✅ amb168 เปิดให้บริการมากกว่า 3 ปี มีฐานผู้เล่นหลักแสนคน
- ✅ มีรีวิวจริงจาก Facebook และกลุ่มผู้เล่นสล็อตทุกวัน
- ✅ หน้าเว็บโหลดไว มีใบรับรอง SSL ปลอดภัยระดับสากล
- ✅ รองรับการถอนผ่านบัญชีไทยทุกธนาคาร + TrueMoney Wallet
เราไม่เพียงให้บริการที่รวดเร็วเท่านั้น แต่ยังใส่ใจเรื่องความโปร่งใสในทุกขั้นตอน เพราะความน่าเชื่อถือคือ “เหตุผลที่ผู้เล่นอยู่กับเรานาน”
💬 คุณไม่ต้องเชื่อเราทันที — แค่ลองใช้ แล้วคุณจะรู้ว่า amb168 คือของจริง
เรายินดีให้คุณลองใช้ระบบแบบไม่เสี่ยงด้วย เครดิตฟรี 50 ไม่ต้องแชร์ ไม่ต้องฝาก แค่สมัครก็รับเลย แล้วลองหมุนสล็อตได้จริง ดูระบบเอง แล้วค่อยตัดสินใจว่าควรอยู่ต่อหรือไม่

🔚 สรุป: amb168 คือเว็บสล็อตเว็บตรงของจริงที่คุณคู่ควร
หากคุณต้องการ เว็บสล็อตแตกง่าย ถอนได้จริง ไม่ล็อกยูส ที่แจก เครดิตฟรี 50 ตั้งแต่ครั้งแรก และยังมีระบบฝากถอนออโต้ รองรับมือถือทุกระบบ — amb168 คือทางเลือกที่ “ครบที่สุด” ในปี 2025
- 💠 เว็บตรงแท้ ไม่ผ่านเอเย่นต์
- 💠 ไม่ล็อกยูส เล่นได้ก็ถอนไปเลย
- 💠 รองรับทั้งธนาคารและทรูวอเลท
- 💠 มีสล็อตทุกค่ายให้เลือก
- 💠 ระบบเข้าใจง่าย เหมาะกับมือใหม่และเซียน
amb168 คือแพลตฟอร์มที่คุณจะรู้สึก “ไว้ใจได้ตั้งแต่คลิกแรก”

❓ คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: amb168 เป็นเว็บตรงจริงไหม?
A: ใช่ 100% ไม่มีเอเย่นต์ รับตรงจากค่ายสล็อต ไม่ผ่านคนกลาง และถอนผ่านระบบออโต้เท่านั้น
Q: เครดิตฟรี 50 ถอนเงินได้จริงไหม?
A: ได้ครับ เมื่อทำยอดเทิร์นตามที่กำหนด ระบบจะให้คุณถอนเข้าบัญชีได้ทันที
Q: ถ้าฝากเงิน จะโดนล็อกยูสไหม?
A: ไม่แน่นอน amb168 ไม่มีระบบล็อกยูส ทุกยูสได้รับอัตราชนะตามจริง
Q: เว็บมีค่ายอะไรบ้าง?
A: PG SLOT, JOKER, PRAGMATIC, SLOTXO, RED TIGER, EVOPLAY และอีกมากมาย
Q: รองรับมือถือไหม?
A: ได้ทั้ง Android และ iOS รวมถึงเล่นผ่าน Browser ไม่ต้องโหลดแอป
🔗 ลิงก์ที่เกี่ยวข้อง (Internal + External Links)
🚀 พร้อมลุยหรือยัง? amb168 รอให้คุณพิสูจน์ด้วยตัวเอง
คุณไม่ต้องเชื่อคำโฆษณา ลองเองเลยตอนนี้ — สมัครฟรี, รับเครดิตฟรี 50, ปั่นได้ทุกเกม, ถอนได้จริง!



📚 สารบัญนิยาย amb168
Shut up, malevolent dragon! I don’t want to have any more children with you
หุบปากซะยัยมังกรตัวแสบ ฉันไม่อยากมีลูกกับเธอเพิ่มอีกแล้ว
- บท 152: ความกล้า
- บท 153: อย่าได้บังอาจขึ้นเตียงเชียว
- บท 154: การแต่งงานให้อะไรกับผู้ชายบ้าง
- บท 155: เลี้ยงลูกในท้องได้นะ แต่ห้ามเลี้ยงไขมัน
- บท 156: ไม่ล้างสามวัน หยิ่งทะนงทะลุฟ้า
- บท 157: พายุใกล้เข้ามาแล้ว
- บท 158: คำสัญญา
- บท 159: ราชามังกรเพลิงชาดมาเยือน
- บท 160: สิ่งที่เรียกว่าความแข็งแกร่งเหนือใคร
- บท 161: ชายที่แกร่งที่สุดกับภรรยาของเขา
- บท 162: ปากของคุณพ่อแข็งมากเลยเหรอ?
บท 152: ความกล้า คลิกตรงนี้เพื่ออ่าน
ฤดูหนาวมาถึงพร้อมกับวันหยุดของโนอา
ก่อนหน้านี้ ลีออนสัญญากับเธอไว้ว่าจะสอนเวทสายฟ้าขั้นสูงให้ในช่วงปิดเทอมฤดูหนาว เพราะแบบนั้น เขาจึงต้องเร่งหาทางแก้ปัญหาการสูญเสียมานาของตัวเองให้เร็วขึ้น
แม้จะยังไม่พบ “สาเหตุที่แท้จริง” แต่ตลอดเดือนที่ผ่านมา ลีออนก็เรียนรู้วิธีหลอกระบบของร่างกายตัวเองจนสามารถกักเก็บมานาไว้ในรอยสักมังกรได้มากพอสมควร
ด้วยพลังที่สะสมไว้ ต่อให้ต้องสาธิตหรือสอนโนอาโดยตรงก็ไม่มีปัญหาแน่นอน แน่นอนว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาสะสมมานาได้มากขนาดนี้ในเวลาแค่เดือนเดียว… ก็มาจากยัยมังกร
ตั้งแต่คืนนั้นที่มีเรื่องเกี่ยวกับรูปถ่าย ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับรอสไวส์ก็ดูจะผ่อนคลายขึ้น—อย่างน้อยก็ไม่มีสถานการณ์ “ทะเลาะกันทุกวัน รบกันทั้งคืน” เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
อย่างไรก็ตาม ลีออนรู้สึกว่าสาเหตุหลัก ๆ น่าจะเป็นเพราะท้องของรอสไวส์ที่เริ่มโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเธอยังไม่คิดหา “วิธีเล่นสนุกแบบใหม่” มาแกล้งเขาก็เท่านั้น
แต่ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นอะไร การสะสมมานาได้มากขึ้นก็ถือเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว ถ้าวันไหนรอสไวส์กลับมาสวยสะพรั่งและทวงคืนชื่อเสียงของมังกรในตำนาน แล้วเกิดอยาก “ส่งการบ้าน” กับเขาอีกล่ะก็…
เขาจะทำให้มังกรร้ายตัวนี้ไม่มีทางได้ใจดีไปง่าย ๆ แน่
“คราวนี้มีเวทสายฟ้าอยู่เต็มมือ ถ้ายังทำให้หางเธอชาไม่ได้ อย่าเรียกผมว่าลีออน!”
ฤดูหนาวมาถึงพร้อมกับหิมะโปรยปรายปกคลุม วิหารมังกรเงิน ให้ขาวโพลน
ที่สนามฝึก มูนในชุดกันหนาวสีชมพู พร้อมที่ปิดหูลายอุ้งเท้ามังกรและถุงมือหนา ๆ กำลังเข็นก้อนหิมะขนาดมหึมา ซึ่งดูใหญ่เกินตัวเธอไปมาก
“พ่อบอกว่าหิมะที่เพิ่งตกใหม่ ๆ จะเกาะกันแน่นที่สุด เหมาะกับการปั้นตุ๊กตาหิมะที่สุด เพราะงั้นถ้าอยากได้ตุ๊กตาหิมะกลมสวยล่ะก็ ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดเลย!”
มังกรน้อยเพิ่งปั้นส่วนล่างของตุ๊กตาหิมะเสร็จ ตอนนี้กำลังตั้งใจปั้นส่วนบนอย่างขะมักเขม้น
หลังจากสอนลูกสาวคนเล็กให้สร้างตุ๊กตาหิมะเสร็จ ลีออนก็หันไปเริ่มสอนลูกสาวคนโตเกี่ยวกับเทคนิคขั้นสูงของเวทสายฟ้า
“โนอา ก่อนอื่นบอกพ่อหน่อยว่าเรียนไปถึงไหนแล้วที่สถาบัน” ลีออนพูด “พ่อจะได้รู้ว่าควรเริ่มสอนตรงไหน”
ถ้าอธิบายแบบผิวเผินเกินไป โนอาอาจจะเรียนรู้สิ่งเหล่านั้นจากสถาบันไปแล้ว ทำให้เสียเวลาเปล่า แต่ถ้าลงลึกเกินไป ต่อให้เป็นเด็กหัวไวแบบโนอา เธอก็อาจจะสับสนได้ ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเรียนรู้
โนอาพยักหน้า “ได้เลยพ่อ ที่สถาบันหนูเรียนเวทสายฟ้าระดับ B ไปแล้ว แล้วเทอมหน้าจะเริ่มเรียนระดับ A เพราะงั้นหนูอยากทำความคุ้นเคยกับมันล่วงหน้าก่อน”
อีคิวสูง: “ทำความคุ้นเคยกับมันล่วงหน้า”
อีคิวต่ำ: “เทอมหน้าจะได้มีของไว้ตบเพื่อนร่วมห้อง”
โนอาเป็นเด็กที่รู้ตัวเองเสมอว่าต้องการอะไร โดยเฉพาะเรื่องการเรียน นักเรียนแบบนี้ไม่ต้องให้ใครคอยจ้ำจี้จ้ำไช พวกเขาจะจัดการตัวเองได้ดี ทำให้เป็นลูกศิษย์ที่สอนง่ายสำหรับอาจารย์
ที่เธอพูดถึง “ระดับ A” และ “ระดับ B” นั้น เป็นการจัดระดับความยากของเวทมนตร์ ทั้งมนุษย์และมังกรใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษในการจัดระดับความซับซ้อนของเวท
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความแตกต่างระหว่างสองเผ่าพันธุ์ เวทเดียวกันอาจถูกจัดอยู่ในระดับ A สำหรับมนุษย์ แต่เป็นแค่ระดับ B สำหรับมังกรก็ได้
แน่นอน เรื่องพวกนี้เป็นแค่รายละเอียดเล็กน้อย ลีออนเตรียมตัวมาอย่างดีล่วงหน้าแล้ว เขาไม่มีทางพลาดเรื่องการใช้ระบบจัดระดับผิดพลาด เพราะถ้าทำแบบนั้น มันจะกลายเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ของโนอาแทน
เพื่อเห็นแก่ลูกสาวสุดที่รัก ลีออนถึงขั้นนั่งท่องจำระบบจัดระดับเวทมนตร์ใหม่หมดทั้งชุด
“เวทระดับ A งั้นเหรอ… ได้เลย” ลีออนตอบ
โดยส่วนใหญ่แล้ว ระดับความยากของเวทมนตร์มักจะสะท้อนถึงพลังทำลายของมัน อย่างเช่น เวทระดับ C ก็มักจะสร้างความเสียหายได้น้อยกว่าเวทระดับ A เสมอ
แต่ทำไมถึงบอกว่า “โดยส่วนใหญ่” และ “มักจะ” ล่ะ?
ก็เพราะว่า… มันมีข้อยกเว้นอยู่เสมอ
เวทมนตร์ยังถูกแบ่งออกเป็นสามประเภทหลัก ๆ ได้แก่ เวทต่อสู้ เวททักษะ และเวทสนับสนุน ซึ่งโนอายังไม่ได้ศึกษาเรื่องพวกนี้อย่างจริงจัง ลีออนจึงไม่ได้ลงรายละเอียดให้มากนัก เพียงแค่เกริ่นแนวคิดโดยสังเขปเท่านั้น
โนอาตั้งใจฟังอย่างเต็มที่ พอเธอเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับระดับเวทในเชิงลึกขึ้น ลีออนก็เข้าเรื่องทันที
“งั้นพ่อจะสอนเวทสายฟ้าระดับ A ที่ใช้ได้จริงที่สุด แล้วก็เป็นเวทที่พ่อชอบที่สุดด้วย”
“อื้ม!” โนอาส่ายหางไปมาอย่างตื่นเต้น
เธอไม่รู้สึกเขินอายเวลาแสดงความรู้สึกออกมาต่อหน้าลีออนอีกแล้ว ก็เขาเป็นพ่อของเธอนี่ จะอ้อนพ่อบ้างมันผิดตรงไหนกัน?
ลีออนยกมือขวาขึ้น หงายฝ่ามือ นิ้วงอเล็กน้อย ก่อนจะร่ายเวททันที
ในพริบตา สายฟ้าสีจางแล่นวาบขึ้นมา ห่อหุ้มฝ่ามือของเขาทั้งหมด ประกายไฟฟ้านับไม่ถ้วนกระจายตัวในอากาศ ส่งเสียงแตกเปรี๊ยะเป็นจังหวะชัดเจน
แสงจากสายฟ้าสะท้อนอยู่ในดวงตาของโนอา เธออ้าปากเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความอิจฉา
ในฐานะเด็กหัวกะทิอันดับหนึ่งของภาควิชามังกรเยาว์ โนอารู้ได้ทันทีว่าเวทสายฟ้าระดับ A บทนี้ยากแค่ไหน การรวบรวมมานาสายฟ้าความบริสุทธิ์สูงให้อยู่ในจุดเดียวและตรึงมันไว้กับมือได้อย่างมั่นคงนั้น เป็นอะไรที่ต่างจากแค่ “รวมพลังงาน” แบบธรรมดาโดยสิ้นเชิง
ถ้าควบคุมไม่ได้ดีพอ อาจทำร้ายตัวเองได้เสียด้วยซ้ำ การจะใช้เวทนี้ได้อย่างคล่องแคล่วเหมือนที่ลีออนทำ ต้องผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก และต้องมีพรสวรรค์ระดับหนึ่ง
“ท่านี้มีสองวิธีในการปล่อยพลัง” ลีออนอธิบาย พลางพาโนอาไปที่หุ่นซ้อม
จากนั้น เขาขยับมืออย่างรวดเร็ว ก่อนใช้คมมีดสายฟ้าฟันทะลุหุ่นซ้อมได้อย่างง่ายดาย
“วิธีแรก ใช้โจมตีระยะประชิดแบบนี้ อาศัยพลังระเบิดของสายฟ้าในการสร้างแรงโจมตีที่รุนแรงถึงชีวิต”
“ท่าที่ทรงพลังที่สุดมักเป็นการโจมตีที่เรียบง่ายที่สุด”—นี่คือข้อได้เปรียบของเวทสายฟ้า
“แล้ววิธีที่สองล่ะ?” โนอาถามด้วยความสนใจ
“วิธีที่สองต้องอาศัยสายตาที่เฉียบคมกับทักษะทางกายภาพที่ยอดเยี่ยม” ลีออนอธิบาย “ถ้าเธอสร้างระยะห่างจากศัตรูได้แล้ว ก็สามารถใช้ท่านี้หลังจากพุ่งเข้าหาด้วยความเร็วสูง แรงเฉื่อยจากการพุ่งจะเพิ่มพลังทะลวงของการโจมตีอย่างมาก แน่นอนว่ามันมีพลังทำลายสูงกว่าวิธีแรก แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่มากขึ้น”
โนอาขบคิด ก่อนพยักหน้าอย่างเข้าใจ “เพราะงั้น เวลาที่พ่อบอกว่าต้องมีสายตาที่เฉียบคมกับทักษะทางกายภาพ มันคือเพื่อป้องกันไม่ให้โดนขัดจังหวะหรือโดนซุ่มโจมตีระหว่างพุ่งเข้าโจมตีใช่ไหม?”
ลีออนยิ้มออกมา พลางลูบหัวลูกสาว “โนอาฉลาดมาก ใช่เลย”
“แล้วพ่อ ท่านี้มีชื่อไหม?” โนอาถามด้วยความอยากรู้
“แน่นอนว่ามันมีชื่อ” ลีออนตอบ ก่อนจะรวบรวมพลังสายฟ้าอีกครั้ง ประกายไฟฟ้าปะทุขึ้น พร้อมเสียงแตกเปรี๊ยะก้องอากาศ
“เพราะเวลาที่ใช้ พลังเวทจะเสียดสีกับอากาศ ส่งเสียงแหลมสูง ราวกับเสียงนกร้องนับพันตัว เพราะงั้น ท่านี้มีชื่อว่า…”
โนอาจ้องตาไม่กะพริบ กล่าวอย่างตื่นเต้น
“ สายฟ้าทะลวงใช่มั้ยคะ”
ท่าที่ทรงพลังที่สุด ไม่เพียงแต่ใช้การโจมตีที่เรียบง่ายที่สุดเท่านั้น ควรมาพร้อมกับชื่อที่ตรงไปตรงมาที่สุดอีกด้วย
“แต่พ่อคะ แล้วชื่อท่านี้มันเกี่ยวอะไรกับเสียงนกพันตัวที่พ่อพูดเมื่อกี้?” โนอาหรี่ตาล้อเลียนเล็ก ๆ
“ไม่เกี่ยวหรอก พ่อแค่โชว์สกิลเปรียบเปรยเฉย ๆ” ลีออนหัวเราะ “หรืออยากให้พ่อสอนวิชาการเปรียบเปรยให้ด้วย?”
โนอายิ้มขำ “ฮ่า ๆ พ่อนี่ตลกจริง ๆ”
แต่แน่นอนว่า เรื่องนี้ก็สำคัญอยู่บ้าง
เผ่ามังกรเรียกเวทสายฟ้าสำหรับโจมตีร่วมกันนี้ว่า “สายฟ้าทะลวง”—ชื่อเรียบง่าย ไร้ความคิดสร้างสรรค์ เหมือนกับท่าเปิดฉากสุดคลาสสิกของพวกเขา “เพลิงมังกร” เผ่ามังกรนี่ช่างป่าเถื่อนจริง ๆ รู้แต่เรื่องต่อสู้ล้วน ๆ!
“เรื่องตั้งชื่อนี่มันต้องยกให้เผ่ามนุษย์สิ” ลีออนคิดในใจ
หลังจากที่มนุษย์นำเวทนี้มาพัฒนาต่อ พวกเขาตั้งชื่อมันใหม่ตามเสียงที่ดังขึ้นเวลาร่าย—เสียงแหลมสูงที่เหมือนเสียงนกนับพันร้องประสานกัน
“พันปักษา”
แต่แค่ก ๆ แน่นอนว่า ลีออนไม่สามารถบอกชื่อนี้ให้โนอารู้ได้ แม้แต่จะบอกว่า “จริง ๆ แล้วพ่อมีชื่อที่เท่กว่านี้นะ” ก็ยังไม่กล้าพูด!
ด้วยความฉลาดของโนอา ถ้าวันหนึ่งเธอไปเจอชื่อท่านี้ในหนังสือที่บันทึกว่าเป็นเวทที่มนุษย์คิดค้นขึ้น มันคงเป็นเรื่องยากที่จะไม่ทำให้เธอเชื่อมโยง “พ่อแก่ ๆ” ของตัวเองเข้ากับเผ่ามนุษย์
และถ้าเธอถูกปลูกฝังแนวคิดแบบ “หลักสูตรการศึกษาของสถาบันเซนต์ไฮส์” จนซึมลึกเข้าไปจริง ๆ ไม่แน่ว่า “พ่อมนุษย์” อาจกลายเป็น “โปรเจกต์จบ” ของเธอขึ้นมาก็ได้!
ลีออนส่ายหัว สลัดความคิดไร้สาระออกไป แต่ในเมื่อเผลอคิดมาถึงจุดนี้แล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะไตร่ตรองถึงสถานะความเป็นมนุษย์ของตัวเอง กับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับลูกสาวทั้งสอง
แต่ก่อนที่เขาจะคิดไปไกลกว่านั้น เสียงหิมะกรอบแกรบดังขึ้นใกล้ ๆ ทางเข้า สนามฝึก
พ่อกับลูกหันไปมองพร้อมกัน
เป็นรอสไวส์
เธอยืนอยู่ท่ามกลางหิมะ สวมเสื้อคลุมเงินตัวหนา ร่างระหงดูอ่อนช้อยและสง่างาม ใบหน้าละเอียดอ่อนของเธอบริสุทธิ์ราวกับหิมะที่เพิ่งโปรยปรายลงมา
บท 153: อย่าได้บังอาจขึ้นเตียงเชียว
บท 153: อย่าได้บังอาจขึ้นเตียงเชียว คลิกตรงนี้เพื่ออ่าน
“แม่~”
มูนยืนอยู่ข้างก้อนหิมะสองก้อน—ก้อนหนึ่งใหญ่ อีกก้อนเล็ก โบกแขนเล็ก ๆ เรียกหารางวัลสายตาจากรอสไวส์
รอสไวส์โบกมือกลับ ก่อนจะเหลือบมองลีออนกับโนอา ดูจากสภาพหุ่นซ้อมที่เสียหายยับเยินข้าง ๆ ทั้งสองคน คงกำลังฝึกเวทโจมตีกันอยู่แน่ ๆ
“เวลาใช้เวท ระวังอย่าให้ตัวเองบาดเจ็บนะ โนอา”
เธอไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปแทรกแซงการสอนของลีออนอยู่แล้ว—เขามีพรสวรรค์ในการสอนเด็ก ๆ เป็นทุนเดิม เธอจึงไม่จำเป็นต้องกังวลมาก
“ค่ะ แม่”
หลังจากตอบ โนอาก็หันไปโฟกัสกับการรวมพลังสายฟ้าในมืออีกครั้ง
ลีออนเงยหน้าขึ้นมองราชินีมังกรผู้เลอโฉม เกล็ดหิมะร่วงหล่นลงบนเรือนผมสีเงินและลาดไหล่ของเธอ ราวกับแต่งแต้มให้เธอดูงดงามยิ่งกว่าตุ๊กตากระเบื้องเคลือบที่ได้รับการสร้างสรรค์อย่างประณีต
รอสไวส์สบตาลีออน แต่ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่แลกเปลี่ยนสายตากันสั้น ๆ ก่อนที่รอสไวส์จะเบือนหน้ากลับไปแล้วเดินไปหามูน
“พ่อสอนคนโต แม่ดูแลคนเล็ก แบ่งงานกันชัดเจน”
“มูนกำลังปั้นตุ๊กตาหิมะเหรอ?” รอสไวส์ถามขณะเดินเข้าไปใกล้
“อื้ม! มูนปั้นส่วนตัวกับส่วนหัวเสร็จแล้ว แต่ว่า… แต่ว่ามูนตัวเตี้ยไปหน่อย ต่อมันเข้าด้วยกันไม่ได้” มูนเงยหน้ามองแม่ ดวงตากลมโตเป็นประกายส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ
รอสไวส์ยิ้ม “ให้แม่ช่วยไหมคะ?”
“โอเค~”
รอสไวส์พยักหน้า ก่อนก้มลงยกส่วนหัวของตุ๊กตาหิมะขึ้น แต่เพราะท้องของเธอเริ่มนูนขึ้นชัดเจนจากการตั้งครรภ์ได้เกือบสี่เดือน การยืดตัวขึ้นจึงเริ่มเป็นเรื่องลำบากเล็กน้อย
เห็นดังนั้น มังกรน้อยก็รีบวิ่งเข้ามาข้าง ๆ ยกแขนขึ้นสุดตัวช่วยแม่พยุงอีกด้านของก้อนหิมะ แถมยังเขย่งเท้าให้สูงขึ้นอีกด้วย หางเล็ก ๆ ของเธอก็ดูเหมือนจะออกแรงช่วยเหมือนกัน
สุดท้าย ด้วยความร่วมมือของแม่ลูก หัวของตุ๊กตาหิมะก็ถูกวางลงบนตัวอย่างสมบูรณ์แบบ
“แม่เก่งที่สุดเลย!” มูนวิ่งเข้ามาเขย่าแขนรอสไวส์ด้วยความตื่นเต้น
รอสไวส์ลูบหัวลูกสาว “มูนก็เก่งเหมือนกันนะ ตอนนี้หน้าตุ๊กตาหิมะยังว่างอยู่เลย เรามาทำตากับปากให้มันกันเถอะ”
“โอเค!”
รอสไวส์เคยผ่านฤดูหนาวมากว่าสองร้อยครั้ง แต่ไม่เคยปั้นตุ๊กตาหิมะกับใครมาก่อน
แม้แต่ตอนเป็นเด็ก เธอก็ไม่สนใจเกมแบบนี้เลย ตอนที่อิซาเบลล่าเคยชวนออกไปปั้นตุ๊กตาหิมะหรือเล่นปาหิมะ เธอกลับเฉยเมย ไม่เคยเข้าใจเลยว่าการกลิ้งก้อนหิมะให้เป็นก้อนใหญ่แล้วปั้นเป็นคนนั้น จะมี “ความสำเร็จ” ตรงไหน
สำหรับรอสไวส์ในตอนนั้น การใช้เวลาไปกับการอ่านหนังสือเพิ่ม หรือฝึกฝนเวทมนตร์น่าจะเป็นประโยชน์กว่าการเสียเวลาเล่นอะไรแบบนี้เสียอีก แม้แต่ตอนที่ลูกสาวทั้งสองได้สัมผัสฤดูหนาวเป็นครั้งแรก เธอก็ทำแค่ยืนดูอยู่ข้าง ๆ ไม่เคยร่วมเล่นด้วย
แต่หลังจากใช้ชีวิตร่วมกับลีออนมานานเข้า เธอก็ค่อย ๆ ลด “ความยโส” ที่แม่คนหนึ่งไม่ควรมีลงไปเรื่อย ๆ
จากจุดเริ่มต้นที่ให้ลูกสาวสองคนเลิกเรียกเธอว่า “ท่านแม่” แล้วเปลี่ยนเป็น “แม่”
จากการยอมถ่ายรูปครอบครัว เข้าร่วมงานกีฬาของโรงเรียน
ช่วยโนอาเขียนเรียงความหัวข้อ “ความรักของพ่อแม่”
จนมาถึงตอนนี้—ปั้นตุ๊กตาหิมะกับมูน
เธอเปลี่ยนไปมากจริง ๆ
เมื่อก่อนเธอคงไม่มีทางทุ่มเทให้กับกิจกรรมแบบนี้เต็มที่แน่ ๆ ถึงจะไม่อยากยอมรับว่าคนที่เปลี่ยนเธอคือ ลีออน แต่ความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ก็เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่เขาฟื้นขึ้นมา
แต่ก็นั่นแหละ—ต่อให้เปลี่ยนไปแค่ไหน เรื่องที่เกี่ยวกับลูก ๆ เท่านั้นที่ได้รับอิทธิพลจากลีออน ส่วน “ทัศนคติต่อเชลยศึก” น่ะ ราชินีผู้นี้ไม่มีวันเปลี่ยนเด็ดขาด!
พอวางเรื่องฟุ้งซ่านในหัวออกไปได้ ตุ๊กตาหิมะก็เกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว พวกเธอหาของมาแทนตา ปาก และแขนได้หมดแล้ว ขาดแค่จมูกเท่านั้น
มูนยืนกอดอกมองตุ๊กตาหิมะตัวเกือบเสร็จ ก่อนจะเกาหัวที่เต็มไปด้วยเกล็ดหิมะเบา ๆ “มูนหากิ่งไม้ที่เหมาะจะทำจมูกไม่ได้เลย”
รอสไวส์กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
เมื่อหันกลับไป ก็เห็นว่าเป็น ลีออน
“โอ้โห สร้างเสร็จเร็วเหมือนกันนะ” ลีออนพูดขณะมองตุ๊กตาหิมะ ก่อนจะเหลือบสายตาไปที่จุดที่ควรเป็นจมูก “แต่ทำไมยังไม่มีจมูกล่ะ?”
“กิ่งไม้ที่หาได้มันเล็กไปค่ะ ไม่เหมาะจะทำเป็นจมูกเลย” มูนอธิบาย
ลีออนนั่งยอง ๆ ลงก่อนจะหยิกจมูกเล็ก ๆ ของมูนเบา ๆ “งั้นทำไมไม่ให้มันมีจมูกเล็ก ๆ แบบมูนล่ะ?”
“แต่แม่บอกว่าถ้าทำแบบนั้น ตุ๊กตาหิมะจะไม่มีเอกลักษณ์ค่ะ” มูนเถียง
ลีออนอุ้มมูนขึ้น ก่อนเดินไปหารอสไวส์ “ไม่มีเอกลักษณ์อะไรล่ะ? จมูกเล็ก ๆ น่ะน่ารักออก”
“ความน่ารักของมูนไม่เกี่ยวกับจมูก” รอสไวส์ตอบเสียงเรียบ
เธอลืมไปแล้วว่าครั้งหนึ่งเคยบอกลีออนไว้ว่า “น่ารัก” เป็นคำดูถูกสำหรับมังกร
แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่นะ—รอสไวส์หาคำคุณศัพท์ที่เหมาะกับลูก ๆ ของเธอไม่ได้เลย สุดท้ายก็เลยปล่อยเลยตามเลย ยอมใช้ตามลีออนไป
“ตุ๊กตาหิมะควรจะมีจมูกยาว” รอสไวส์ยืนกราน
ลีออนเลิกคิ้ว “แต่ฉันว่ามันควรมีจมูกเล็กนะ”
“จมูกยาว”
“จมูกเล็ก”
“จมูกยาว!”
“โอเค ๆ จมูกยาวก็ได้” ลีออนยอมถอย—เถียงกับหญิงท้องไม่มีทางชนะอยู่แล้ว เขามองไปรอบ ๆ “แต่ดูเหมือนพวกเธอจะยังไม่เจออะไรที่ใช้เป็นจมูกยาวเลยนะ?”
“หึ ไม่ต้องหาหรอก ฉันเตรียมมาแล้วก่อนออกมา” รอสไวส์พูด “กำลังจะหยิบออกมาอยู่พอดี นายก็ดันเดินมาซะก่อน”
ลีออนกระพริบตาปริบ ๆ ฟังดูเหมือนรอสไวส์จะกำลังแขวะว่าเขาไม่ได้ตั้งใจสอนโนอา แต่แค่หนีมาหาเรื่องเล่นสนุก เขารีบแก้ตัวทันที “โนอากำลังฝึกอย่างดี ผมแค่เดินมาดูพวกเธอแค่นั้นเอง”
รอสไวส์ยักไหล่ “ไม่ได้หมายถึงแบบนั้น หมายถึงนายมาได้ถูกจังหวะพอดี”
“ถูกจังหวะ? หมายความว่ายังไง?”
ราชินียิ้มมุมปาก ก่อนก้มลงล้วงบางอย่างออกมาจากกระเป๋าด้านในของเสื้อคลุม
—แครอท
ท่ามกลางบรรยากาศเย็นเยือก เจ้าแท่งสีส้มอันตรายนี้โดดเด่นขึ้นมาทันทีในสายตาลีออน
เขาถอยหลังไปครึ่งก้าวโดยอัตโนมัติ “นี่น่ะเหรอที่เธอเรียกว่าจมูกที่เหมาะสม?”
“อื้ม~” รอสไวส์ตอบอย่างภาคภูมิใจ ก่อนหมุนตัวไปติดแครอทไว้ใต้ดวงตาของตุ๊กตาหิมะ
คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะดูเข้ากันได้ดีอย่างน่าประหลาด
“สมบูรณ์แบบ” รอสไวส์พยักหน้าพอใจสุด ๆ
“หึ” ลีออนพ่นลมหายใจแรง ๆ อย่างไม่สบอารมณ์
รอสไวส์หันกลับมามองเขา “อะไร? ไม่พอใจเหรอ? ถ้าไม่ชอบ มีตัวเลือกสำรองให้นะ”
“มันคือ?”
ทันทีที่พูดจบ รอสไวส์ก็ล้วงบางอย่างออกจากกระเป๋าด้านในของเสื้อคลุม
—มะเขือยาว
ลีออน: “…ไม่น่าถามเลยจริง ๆ”
“เย้~ ตุ๊กตาหิมะเสร็จแล้ว~”
มูนส่ายหางเล็ก ๆ ของเธอด้วยความตื่นเต้น ปอยผมบนหัวแกว่งไปมาตามจังหวะ
ลีออนวางเธอลงบนพื้น ปล่อยให้ลูกสาวได้ชื่นชมผลงานของตัวเองอย่างเต็มที่
ขณะที่พวกเขาสองพ่อลูกสนุกกันดี คู่สามีภรรยาก็ขยับมายืนคุยกันเงียบ ๆ อีกมุมหนึ่ง
ลีออนเหลือบมองท้องที่เริ่มนูนชัดของรอสไวส์ “แล้วถ้าเธอ… ลื่นล้มในหิมะเข้าไปล่ะ?”
“มังกรไม่ล้มง่าย ๆ หรอก” รอสไวส์สะบัดหางยาวสีเงินเบา ๆ “หางของเผ่ามังกรนอกจากจะบ่งบอกฐานะกับอายุแล้ว ยังช่วยให้เรารักษาสมดุลได้ดีกว่าด้วย”
ลีออนหรี่ตาลง พิจารณาหางเรียวยาวที่แกว่งไปมาเงียบ ๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า “หืม… ก็มีประโยชน์หลายอย่างดีแฮะ”
“หึ่… บากะ”
รอสไวส์เข้าใจความนัยของเขาทันที ก่อนจะพึมพำเบา ๆ แล้วรีบหดหางกลับลงมา
ลีออนหัวเราะเบา ๆ ก่อนกอดอกถาม “แอนนาไม่เห็นเหรอว่าเธอแอบออกมา?”
ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ต่อให้รอสไวส์ไม่พูดอะไร แอนนาและเหล่าสาวใช้ก็รู้ได้เองว่า ราชินีทรงพระครรภ์
ยิ่งเป็นช่วงฤดูหนาวแบบนี้ อย่างที่ลีออนบอก—พื้นหิมะเย็นจัด แถมลื่นง่ายสุด ๆ ดังนั้น ช่วงนี้แอนนาและเหล่าสาวใช้จึงจับตาดูรอสไวส์อย่างใกล้ชิด ไม่ยอมให้เธอเดินไปไหนไกล ๆ
ส่วนเรื่อง “ออกไปข้างนอก” น่ะเหรอ?
หึ ฝันไปเถอะ!
“การจำกัดพื้นที่เพื่อราชินี” ฟังดูเหมือนเป็นการกบฏและล่วงเกินอำนาจจนถึงขั้นอาจมีหัวหลุดจากบ่าได้
แต่รอสไวส์ไม่ใช่ทรราชไร้ความสามารถ สาวใช้ที่คอยดูแลเธอล้วนทำไปเพราะหวังดีจริง ๆ—พวกเธอจึงไม่ยอมให้เธอออกไปเดินเตร็ดเตร่ตามใจชอบ และถ้ารอสไวส์หันไปตำหนิพวกเธอเข้า ก็คงทำร้ายจิตใจพวกเธอเปล่า ๆ
ดังนั้น ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา รอสไวส์จึงเปิด “ศึกชิงไหวพริบ” กับทีมสาวใช้ของเธอ
ถึงภายนอกเธอจะดูเยือกเย็นและไม่ใส่ใจอะไร แต่แท้จริงแล้ว เธอเป็นคนที่ดื้อเงียบมาก ถ้าสาวใช้เผลอปล่อยการ์ดตกแม้แต่นิดเดียว เธอก็จะ “ปิ้ว!” หายตัวออกไปในพริบตา และไม่มีใครตามตัวทัน
และในฐานะ “สามีของราชินี” ลีออนก็ถูกดึงให้กลายเป็น “ผู้สมรู้ร่วมคิด” ไปโดยปริยาย
แน่นอนว่า สถานะ “ผู้สมรู้ร่วมคิด” นี้ไม่ได้เกิดจากความเต็มใจ—แต่เกิดจากการถูกขู่
รอสไวส์ยื่นคำขาดไว้ว่า “ถ้ากล้าฟ้องแอนนา ฉันจะให้นายกลับไปทำการบ้านทุกวัน!”
ดังนั้น เพื่อมานาที่ยอมลำบากสะสมมาอย่างยากเย็น ลีออนจึงได้แต่กัดฟันทน…
ความจริงแล้ว ในฐานะสามีผู้ใกล้ชิดกับรอสไวส์ที่สุด ลีออนเข้าใจสภาพร่างกายของเธอดีกว่าแอนนาด้วยซ้ำ เธอไม่ได้อ่อนแอจนถึงขั้นต้องขังตัวเองอยู่แต่ในบ้านทุกวัน—ออกมาเดินเล่นสักหน่อยก็ไม่มีปัญหา
แต่ปัญหาคือ… แอนนาในฐานะหัวหน้าสาวใช้ รับหน้าที่ดูแลสุขภาพของราชินีโดยตรง และเธอไม่อาจปล่อยให้เกิดความผิดพลาดได้แม้แต่นิดเดียว
“ไม่หรอก ฉันแอบออกมาทางประตูข้าง พวกนางไม่เห็นแน่” รอสไวส์ตอบ ก่อนจะหยุดไปครู่หนึ่งแล้วเสริมขึ้นมา “แต่ต่อให้เห็นแล้วไง? ฉันเป็นราชินีนะ ไม่เชื่อหรอกว่าแอนนาจะกล้านำสาวใช้ทั้งกองมาลากกลับไป”
ลีออนอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สายตาของเขาเหลือบไปมองเลยไหล่ของรอสไวส์ ราวกับว่าเห็นอะไรบางอย่าง
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้แสดงท่าทีผิดปกติแต่อย่างใด และยังคงพูดต่อไปว่า
“ฟังดูเหมือนเธอไม่กลัวหัวหน้าสาวใช้ของตัวเองเลยนะ”
“กลัวที่ไหนล่ะ? ต่อให้พวกนางจับฉันกลับไป ฉันก็จะหาทางหนีออกมาอยู่ดี” รอสไวส์ยักไหล่ อย่างไม่สะทกสะท้าน
“โอ้โห ๆ กระตือรือร้นอยากออกไปข้างนอกขนาดนี้เลยเหรอ?” ลีออนแซว
“เฮ้อ เพิ่งท้องได้แค่สี่เดือนเองนะ ไม่ใช่ว่าจะคลอดพรุ่งนี้ซะหน่อย” รอสไวส์สวนกลับ เธอรู้สภาพร่างกายตัวเองดีที่สุด และเธอก็ไม่ได้พูดผิด—แต่ในสายตาของเหล่าสาวใช้ผู้จงรักภักดี ความเสี่ยงใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับองค์ราชินีล้วนต้องถูกกำจัดให้สิ้นซาก
ลีออนมองท่าทีมั่นใจของรอสไวส์ก่อนจะค่อย ๆ ปรบมือช้า ๆ “สมกับเป็นราชินีมังกรเงินจริง ๆ งั้นพอแอบหนีออกมาได้แล้ว คิดจะทำอะไรต่อ?”
รอสไวส์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อืม… อาจจะสอนเวทไฟให้มูน หรือไม่ก็ปั้นตุ๊กตาหิมะอีกตัวดี? หรือจะเล่นปาหิมะก็น่าสนุกเหมือนกัน”
“ถ้าแอนนารู้ว่าเธอวางแผนจะเล่นสนุกขนาดนี้ นางคงลากเธอกลับทันที” ลีออนแซวขำ ๆ
รอสไวส์โบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “ก็แอนนาไม่ได้อยู่ที่นี่นี่—”
“ฝ่าบาท”
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง
เส้นขนบนร่างของรอสไวส์ลุกชันขึ้นทันที “…”
“เวทไฟ… ปั้นตุ๊กตาหิมะ… ปาหิมะ…” แอนนาเอ่ยเสียงเนิบช้า “ท่านคิดว่าหญิงตั้งครรภ์ควรทำอะไรพวกนี้ได้อย่างนั้นหรือ?”
น้ำเสียงของหัวหน้าสาวใช้เต็มไปด้วยความปลงตก
รอสไวส์ยังคงหันหลังให้แอนนา แต่เธอกลับต้องเผชิญหน้ากับลีออนแทน
ราชินีมังกรจ้องมองนักล่ามังกรผู้น่าชังอย่างเอาเรื่อง กัดฟันแน่นก่อนพึมพำเสียงต่ำ “นายหักหลังฉัน!”
“ผมก็แค่ถาม ไม่ได้ฟ้องสักหน่อย ไม่เกี่ยวกับผมนะ” ลีออนรีบตีตัวออกห่างจากรอสไวส์ทันที
“นาย!”
“ฝ่าบาท โปรดกลับไปกับหม่อมฉันเถอะเพคะ หากพระองค์ทรงหกล้ม มันจะเป็นความผิดของหม่อมฉัน” แอนนากล่าว น้ำเสียงอ่อนโยน
เธอรับใช้ราชินีมานานหลายสิบปี รู้ดีว่าการพูดหว่านล้อมอย่างนุ่มนวลย่อมได้ผลดีกว่าการออกคำสั่งแบบแข็งกร้าว
รอสไวส์ถลึงตาใส่ลีออนอีกครั้ง—แววตาของมังกรเงินสะท้อนอารมณ์ชัดเจนว่าถ้าไม่มีแอนนาอยู่ตรงนี้ และถ้าไม่มีมูนเป็นพยาน เธอคงกดลีออนลงไปฝังในหิมะไปแล้ว!
ลีออนทำหน้าใสซื่อสุดชีวิต
“เชื่อเถอะ ผมไม่ได้ฟ้องจริง ๆ!”
“แคสมอด!” รอสไวส์กัดฟันแน่น ” คืนนี้นายห้ามเข้าห้องนอน!”
บท 154: การแต่งงานให้อะไรกับผู้ชายบ้าง
บท 154: การแต่งงานให้อะไรกับผู้ชายบ้าง คลิกตรงนี้เพื่ออ่าน
ตอนเย็น ลีออนอาบน้ำชำระความเหนื่อยล้าของทั้งวัน พอออกจากห้องน้ำมาก็เห็นว่าภรรยาของเขา “รอสไวส์” ล้มตัวลงนอนบนเตียงเรียบร้อยแล้ว
กลางวันวันนี้ “ยัยมังกร” ถูกสาวใช้ของตัวเองจับได้คาสนามฝึก ก่อนจะโดนกักตัวอยู่ในวิหารทั้งวัน ขณะนั้นเอง เธอขู่เขาไว้ว่าถ้ามีปัญญานัก คืนนี้ก็อย่าเข้าห้องนอน!
หึ คิดว่าผมจะกลัวหรือไง?
ผมไม่ได้ฟ้อง ไม่ได้ทำให้เธอโกรธ แล้วทำไมจะเข้ามานอนไม่ได้ล่ะ?
ลีออนเช็ดผมให้แห้ง ก่อนเดินไปที่อีกฝั่งของเตียงขนาดใหญ่ ยกผ้าห่มขึ้นแล้วล้มตัวลงนอนตามปกติ
รอสไวส์ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมากนัก เธอนอนนิ่ง ๆ ปล่อยแขนพ้นจากผ้าห่ม วางมือบนหน้าท้อง ดวงตาสวยจ้องมองเพดานคล้ายกำลังคิดอะไรบางอย่าง
ลีออนเหลือบมองเธอเล็กน้อย ก่อนจะปิดโคมไฟข้างเตียง “ฝันดี”
“ฉันยังไม่ง่วง” รอสไวส์ตอบเรียบ ๆ
“อืม งั้นผมนอนก่อนแล้วกัน”
“ห้ามนอน”
ลีออนหันไปมองเธอ “ทำไมล่ะ?”
“ราชินีที่กำลังตั้งครรภ์ยังไม่นอน แล้วเชลยอย่างเจ้าจะมานอนก่อนได้ยังไง?” รอสไวส์กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
…เออ ก็สมเหตุสมผลดี
ลีออนถอนหายใจอย่างปลง ๆ “แล้วราชินีผู้ทรงพระครรภ์ต้องการอะไรล่ะ?”
รอสไวส์คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบ “อยากฟังนิทาน เล่าให้ฟังหน่อย”
ลีออนกลอกตา “เธออายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย?”
“เพิ่งฉลองวันเกิดไปหมาด ๆ ลืมแล้วเหรอ?” รอสไวส์พูดเสียงเรียบ “สองร้อยสิบแปด”
“รู้ตัวไหมว่าอายุเกินสองร้อยปีแล้ว? ไม่ใช่เด็กสักหน่อย จะมาฟังนิทานทำไม?”
“ไม่สน ฉันอยากฟัง”
“อย่ามาเล่นแง่ นอนได้แล้ว”
“อยากฟัง ๆๆๆ!”
รอสไวส์เริ่มทำตัวเหมือนเด็ก—ไม่สิ เหมือนมังกรน้อย? เอาเถอะ จะเด็กหรือมังกรก็ช่างเถอะ—เธอดิ้นไปมาภายใต้ผ้าห่ม เตะขาสุ่ม ๆ เหมือนเด็กที่งอแงเพราะไม่ได้ขนม
และไม่รู้ว่าเธอจงใจหรือไม่ แต่ลีออนโดนลูกหลงจากแรงเตะของเธอไปหลายทีแล้ว เขาถอยร่นจนชิดขอบเตียง แต่ก้นเขาก็ยังหนีเคราะห์กรรมไม่พ้น
“พระเจ้าให้เธอมีขายาวเพื่อให้ใส่ถุงน่องกระต่ายให้สามีดู ไม่ใช่ให้เอามาเตะก้นสามีบนเตียงนะ ยัยตัวแสบ!”
สุดจะทนกับความวุ่นวาย ลีออนตัดสินใจพูดขึ้นเสียงเรียบ “รอสไวส์”
เท้าของรอสไวส์หยุดค้างอยู่ตรงเอวของเขา “ว่าไง? จะเริ่มเล่านิทานแล้วเหรอ?”
“ผมจะทนเธอให้แค่หกเดือน” ลีออนกัดฟันพูด
รอสไวส์หรี่ตาลงก่อนยิ้มออกมา “งั้นอีกหกเดือนนายค่อยอาละวาดก็แล้วกัน ตอนนี้ฉันกำลังท้อง อารมณ์แปรปรวน นายต้อง อดทน จำไม่ได้เหรอว่าตอนแรกนายเป็นคนรับปากเอง?”
…พลาดแค่ครั้งเดียว ผิดไปตลอดชีวิต
“อารมณ์แปรปรวน” ในความเข้าใจของลีออน ดูเหมือนจะไม่เหมือนกับความเข้าใจของรอสไวส์เลยแม้แต่นิดเดียว…
ตอนที่เขารับปากกับเธอในตอนนั้น ลีออนคิดว่าเธอคงจะระเบิดอารมณ์ออกมาแบบคุมไม่อยู่ สาปแช่งฟ้าดิน ด่าทุกสิ่งทุกอย่างแม้แต่ก้อนอากาศ แล้วระบายความอัดอั้นตลอดสองร้อยปีลงมาที่เขาในช่วงตั้งครรภ์
แน่นอนว่าลีออนเตรียมใจไว้แล้ว—เพื่อเห็นแก่ลูกคนที่สอง เขาจะอดทนให้ถึงที่สุด
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับไม่เป็นไปตามที่เขาคิดเลยสักนิด
พักหลังมานี้ รอสไวส์เริ่มออกคำสั่งแปลก ๆ กับเขา โดยใช้ข้ออ้างว่า “ฉันกำลังท้อง อารมณ์แปรปรวน”
ซึ่งคำสั่งเหล่านั้นมีตั้งแต่—
“ฉันอยากเห็นนายขอแต่งงานกับแครอท แล้วให้มะเขือยาวเป็นพยาน”
“เชลย ลีออน! ลุกขึ้น! ลุกนั่งห้าร้อยครั้ง ปฏิบัติ!”
“มาเล่นเป่ายิ้งฉุบกัน ใครแพ้ต้องล้างเท้าให้คนชนะ… อ้อ แล้วนายต้องออกค้อนเท่านั้นนะ”
“ฉันไม่อยากกินข้าวเย็น”
—ห้านาทีต่อมา—
“ฉันอยากกินของว่างตอนเที่ยงคืน”
“…”
ลีออนเคยได้ยินคำว่า “ตั้งท้องที โง่ไปสามปี” มาก่อน แต่เขาไม่รู้มาก่อนเลยว่ามันมี “ช่วงฟักตัวของความโง่” ด้วย
ราชินีมังกรเงินที่ไหนกัน? นี่มันมังกรเงินเด็กเกรียนชัด ๆ!
ลีออนถอนหายใจเงียบ ๆ ในใจ แล้วก็ได้ข้อสรุปว่า…
เมื่อเทียบกับคำขอแปลก ๆ พวกนั้น การ “เล่านิทาน” ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก
“อยากฟังเรื่องอะไร?” ลีออนถาม
“อะไรก็ได้ ฟังหมดแหละ” รอสไวส์ตอบเสียงหวาน
…หืม วันนี้ดูอ้อนเป็นพิเศษแฮะ
ลีออนรู้สึกว่าความน่ารักของเธอช่วยลดความขุ่นมัวไปได้เยอะพอสมควร พอคิดได้แบบนั้น เขาก็เลือกเรื่องเล่าออกมาได้อย่างรวดเร็ว
พูดก็พูดเถอะ ผมเองก็มีสต็อกนิทานเยอะอยู่แล้ว ในฐานะพ่อที่กำลังจะมีลูกเพิ่ม เรื่องเล่านี่มันเป็นทักษะพื้นฐานเลยนะ
“งั้นเล่าเรื่อง ‘มังกรน้อยข้ามแม่น้ำ’ ให้ฟังดีไหม?”
“อื้ม”
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีมังกรน้อยตัวหนึ่งอยากข้ามแม่น้ำสายเล็ก ๆ แต่กระแสน้ำไหลเชี่ยวมาก เธอกลัวว่าจะถูกพัดไปเสียก่อน จึงไปถามมังกรเฒ่าที่ผ่านมา มังกรเฒ่าบอกว่าน้ำตื้น เดินข้ามได้ง่าย ๆ”
“จากนั้น มังกรน้อยไปถามกระรอกที่อยู่แถวนั้น เจ้ากระรอกบอกว่าน้ำลึก อันตรายเกินไป มังกรน้อยจึงลังเลและ—”
“เดี๋ยว ๆ มีคำถาม” รอสไวส์ขัดขึ้นมากลางคัน
“อะไร?”
“ทำไมกระรอกพูดได้?”
“…”
“แล้วทำไมมังกรน้อยไม่ข้ามสะพานไปล่ะ?”
“เอ่อ…”
“แล้วทำไมมังกรเฒ่าที่ผ่านมาไม่อุ้มเจ้ามังกรน้อยข้ามไปเลย? เรื่องนี้มันใจร้ายมาก เปลี่ยนเรื่องเถอะ”
“เฮ้อ… ผู้ใหญ่ไม่เข้าใจจิตวิญญาณของเด็กจริง ๆ”
ลีออนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจเปลี่ยนเรื่อง
“งั้นเรื่องต่อไปชื่อว่า ‘อีกากระหายน้ำ’”
“อื้ม”
“กาลครั้งหนึ่ง มีอีกาตัวหนึ่งกระหายน้ำมาก จนกระทั่งมันเจอขวดน้ำใบหนึ่ง แต่ว่าคอขวดแคบเกินไป และน้ำในขวดก็มีน้อยจนอีกาก้มลงไปดื่มไม่ได้ หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน อีกาก็เกิดไอเดียขึ้นมา มันบินไปที่ริมแม่น้ำ คาบก้อนหินเล็ก ๆ มาหลายก้อนแล้วหย่อนลงไปในขวด น้ำในขวดค่อย ๆ สูงขึ้น จนกระทั่งอีกาสามารถดื่มน้ำได้ เรื่องนี้สอนให้เรา—”
“เดี๋ยว มีคำถาม”
“อ่า… อีกแล้วเหรอ?” ลีออนเริ่มรู้สึกถึงลางไม่ดี
รอสไวส์หันมามองเขาด้วยดวงตาสีเงินสวยคู่นั้น ก่อนถามอย่างจริงจัง
“ถ้าอีกาตัวนี้บินไปถึงริมแม่น้ำได้ แล้วทำไมมันไม่ดื่มจากแม่น้ำไปเลย ทำไมต้องแบกหินกลับไปเติมขวดด้วย?”
“เอ่อ… มันอาจจะ… เป็นพวกคลั่งความสะอาด?” ลีออนตอบเสียงอ่อย
“ทำไม? น้ำในแม่น้ำสกปรกเหรอ? เพราะมังกรน้อยไปทำมันสกปรกระหว่างข้ามแม่น้ำ?”
—เส้นทางการเชื่อมโยงแบบแฟนตาซีที่ไม่มีใครคาดถึง—
ลีออนถอนหายใจ “รอสไวส์ แค่รักษาจิตวิญญาณของเด็กไว้หน่อย มันยากขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“หึ ถ้าไม่อยากเล่านิทานให้ดี ๆ ก็ช่างเถอะ แล้วก็อย่ามาหาว่าฉันขาดจิตวิญญาณของเด็กด้วย”
—ไม่ใช่ว่าผมไม่เล่าให้ดี แต่เป็นเธอต่างหากที่ไม่ตั้งใจฟังเอง!—
การเล่านิทานให้ “รอสไวส์” ซึ่งมาโดยมีเจตนาก่อกวนตั้งแต่แรก ถือเป็นการทรมานตัวเองโดยสมบูรณ์แบบ…
ขณะที่ลีออนกำลังครุ่นคิดเรื่องนี้ เตียงก็ขยับเล็กน้อย รอสไวส์พลิกตัวนอนหันหลังให้เขา
เฮ้อ… ลีออนถอนหายใจเงียบ ๆ ในใจ ดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะรอดพ้นจากบททดสอบสุดทรมานไปได้แล้ว
ภายในห้องนอนเงียบสงบ มีเพียงเสียงเข็มนาฬิกาที่ดังเป็นจังหวะ
ลีออนพลิกตัว เปลี่ยนเป็นท่านอนที่สบายขึ้น แล้วค่อย ๆ ปิดตาลง
เมื่อความง่วงเข้าครอบงำ ลีออนเผลอหาวออกมาเบา ๆ
เขาไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน จิตสำนึกของเขาค่อย ๆ จมลงสู่ภวังค์กึ่งหลับกึ่งตื่น จนกระทั่งในฝัน เขาเห็นลาแก่ของอาจารย์ตัวเอง—
แต่ในตอนนั้นเอง เสียงของมังกรสาวก็ดังขึ้นจากด้านหลังอีกครั้ง
“ฉันอยากกินแอปเปิ้ล”
ลีออนพึมพำงึมงำ ก่อนแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน…
ทันใดนั้นเอง เท้าเรียวสวยก็กดลงบนเอวของเขา พร้อมน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยอำนาจ
“ฉันอยากกินแอปเปิ้ล”
ปลายเท้านุ่มนิ่มกดแน่นกับเอวของเขา นิ้วเท้าเรียวเล็กขยับเขยื้อนไปมาเล่น ๆ ทำให้ลีออนที่ง่วงแทบขาดใจต้องตื่นเต็มตาอีกครั้ง
เขาถอนหายใจหนัก ๆ—แค่คืนนี้คืนเดียว เขาถอนหายใจมากกว่าทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมารวมกันเสียอีก—ก่อนจะค่อย ๆ พลิกตัวกลับมา
มือข้างหนึ่งเอื้อมไปหยิกแก้มรอสไวส์เบา ๆ แล้วจับหน้าของเธอให้หันไปมองนาฬิกาบนผนัง
“บอกผมสิ เมลค์วี ตอนนี้กี่โมงแล้ว?”
ริมฝีปากของรอสไวส์เป็นรูปตัว “โอ” จากแรงบีบของเขา แต่เธอก็ยังตอบอย่างว่าง่าย
“ตีสามยี่สิบ”
“งั้นตีสามยี่สิบ คิดจะกินแอปเปิ้ลอะไร?” ลีออนถามเสียงเหนื่อยหน่ายสุดขีด
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมตอนกลางวัน รอสไวส์ถึงพูดว่า “ถ้ามีปัญญานัก คืนนี้อย่าเข้าห้องนอนก็แล้วกัน”
มันไม่ใช่คำขู่ แต่มันคือ “คำแนะนำ”
และตอนนี้… ลีออนก็มานั่งอดหลับอดนอน โดนทรมานจนตีสามเข้าให้แล้ว
“ถ้าไม่เอาแอปเปิ้ลมาให้ ฉันจะอาละวาดเดี๋ยวนี้แหละ”
…อันนี้สิถึงจะเป็นคำขู่จริง ๆ
สุดท้าย ลีออนก็จนปัญญาจะสู้ ได้แต่ยกผ้าห่มออกแล้วลุกจากเตียงอย่างหมดอาลัยตายอยาก
เขาเดินไปหยิบแอปเปิ้ลกับมีดปอกผลไม้ ก่อนกลับมานั่งข้างเตียง เปิดโคมไฟข้างเตียง แล้วค่อย ๆ ปอกแอปเปิ้ลอย่างประณีต
เปลือกแอปเปิ้ลหลุดออกมาเป็นเส้นยาวบาง โดยที่ไม่ขาดเลยแม้แต่จุดเดียว
รอสไวส์เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ “ฝีมือใช้มีดไม่เลว”
“ขอบใจสำหรับคำชม ผมฝึกมาจากการปอกให้ลา—”
“หุบปาก” รอสไวส์ส่งสายตาเชือดเฉือน ก่อนฉวยแอปเปิ้ลจากมือเขาแล้วกัดเข้าคำโต
แอปเปิ้ลหวาน กรอบ และอร่อย รอสไวส์เอนตัวพิงหัวเตียง ค่อย ๆ ถือแอปเปิ้ลไว้ในมือ กินไปทีละคำอย่างตั้งอกตั้งใจ
ถึงลีออนจะไม่เข้าใจว่า “กินแอปเปิ้ล” มันต้องจริงจังขนาดนี้เลยเหรอ แต่หลังจากผ่านช่วงเวลานี้มาหลายวัน เขาได้เรียนรู้อย่างหนึ่ง—
อย่าไปถามหาเหตุผลหญิงตั้งครรภ์
“อิ่มแล้ว จัดการที่เหลือซะ” รอสไวส์ยื่นแอปเปิ้ลที่กินไปครึ่งลูกให้ลีออน
ลีออนก้มลงมอง… และมันถูกกัดไปครึ่งหนึ่งแบบพอดิบพอดี ไม่มีขาด ไม่มีเกิน
โอ้โห… นี่เธอตั้งใจจริง ๆ ใช่ไหม? กินไปครึ่งลูกเป๊ะ ๆ เพื่อให้ผมจัดการที่เหลือ? แล้วมันต่างอะไรกับกินหมดเองกันล่ะ—
…ช่างเถอะ อย่าคิดเยอะเรื่องของหญิงตั้งครรภ์
ลีออนรับแอปเปิ้ลมาก่อนกัดเข้าคำหนึ่ง เนื้อแอปเปิ้ลหวานฉ่ำ ไม่แน่ใจว่ามันเป็นรสชาติของผลไม้เอง… หรือเป็นกลิ่นลิปมันที่ติดอยู่จากริมฝีปากของรอสไวส์กันแน่
ความจริงแล้ว ช่วงนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลีออนต้องกินของที่รอสไวส์กินไม่หมด อาการ “อยากกินนู่นนี่” ของหญิงตั้งครรภ์มาเร็วไปเร็ว และมันก็ดูจะเป็นการสิ้นเปลืองเกินไปถ้าจะทิ้งของกินเหล่านั้นไปเปล่า ๆ
ดังนั้น พักหลัง ๆ มานี้ คู่สามีภรรยาจึง “กินร่วมกัน” อยู่บ่อย ๆ
ลีออนคาบแอปเปิ้ลไว้ในปาก มือก็เก็บเปลือกผลไม้กับมีดปอกเข้าที่ไปพร้อมกัน ส่วนคนท้องกินอิ่มแล้วก็ซุกตัวกลับเข้าเตียงไปอย่างสบายใจ
ลีออนเหลือบมองเธอ—คราวนี้ “บททดสอบแห่งค่ำคืน” น่าจะจบลงเสียทีใช่ไหม?
แต่แล้ว สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็น ลิ้นชักข้างเตียง
มันแง้มออกเล็กน้อย ด้านในดูเหมือนจะมีเอกสารบางอย่างวางอยู่…
ลีออนหยิบมันขึ้นมาดู แล้วพบว่ามันคือ แบบฟอร์มลงทะเบียนคลาสโยคะสำหรับหญิงตั้งครรภ์
ความคิดของเขาย้อนกลับไปเมื่อสองเดือนก่อน ตอนที่เขากับรอสไวส์ไปซื้ออาหารเสริมใน นครนภา แล้วได้พบกับ อิซาเบลล่า น้องสาวของรอสไวส์
เป็นอิซาเบลล่านี่เองที่ช่วยรอสไวส์ลงทะเบียนคลาสโยคะนี้ให้
ได้ยินว่าคลาสนี้เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์สามเดือนขึ้นไป
แต่รอสไวส์ไม่เคยพูดถึงมันเลยสักครั้ง
ลีออนจ้องมองแบบฟอร์มลงทะเบียนในมือ ก่อนจะมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว
“กลางคืนไม่นอน แปลว่ากลางวันคงเบื่อมากสินะ หึ ๆ… ยัยมังกร เล่นงานผมมาตั้งนาน คงต้องตอบแทนคืนบ้างแล้วล่ะ!”
ด้วยไฟแห่งการแก้เผ็ดที่ลุกโชนขึ้นในใจ ลีออนตัดสินใจว่าได้เวลาหาทาง “ให้รอสไวส์มีกิจกรรมทำตอนกลางวัน” เสียที!
amb168 เครดิตฟรี 50 ล่าสุด 2025
บท 155: โอเคที่จะเลี้ยง
บท 155: โอเคที่จะเลี้ยง คลิกตรงนี้เพื่ออ่าน
เช้าวันต่อมา รอสไวส์ยืนอยู่บนระเบียง มองออกไปยังสวนหลังของวิหาร
โนอากับมูน สองพี่น้องกำลังเล่นหิมะกับเหล่าสาวใช้ ใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มสดใสไร้เดียงสา
ส่วนราชินี ที่ถูก “กักบริเวณ” อยู่แต่ในห้องของตัวเอง ทำได้แค่ยืนมองอยู่เงียบ ๆ
เฮ้อ…
เมื่อก่อน ตอนที่มีคนมาชวนเธอไปเล่นหิมะ เธอปฏิเสธอย่างไม่ไยดี—แต่พอตอนนี้เธออยากเล่นเองบ้าง กลับออกไปไม่ได้เสียแล้ว
บ้าเอ๊ย… ทุกอย่างเป็นความผิดของลีออน แคสมอดทั้งนั้น!
ถ้าไม่ใช่เพราะหมอนั่น เธอคงไม่ต้องมาตั้งท้อง—ถ้าเธอไม่ตั้งท้อง แอนนากับพวกสาวใช้ก็คงไม่จับเธอกักตัวอยู่แต่ในวิหารแบบนี้!
รอสไวส์ฮึดฮัดคิดอย่างเจ็บใจ
ถ้าออกไปได้เมื่อไหร่ จะปั้นตุ๊กตาหิมะชื่อ “ลีออน” กองให้สูง ๆ
จากนั้นจะเตะมันกระจาย แล้วกระทืบซ้ำให้แหลกเป็นผุยผงเลยคอยดู!
แค่คิดก็รู้สึกสะใจแล้ว
รอสไวส์หลับตาจินตนาการภาพนั้นในหัว และรู้สึกดีขึ้นทันที
แต่พูดถึงลีออน… เช้านี้เธอยังไม่เห็นหน้าเขาเลย หมอนั่นหายไปไหน? หรือกำลังวางแผนเจ้าเล่ห์อะไรอยู่อีก?
ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่นั้น ก็มีเสียงดังขึ้นที่หน้าประตู ฟังจากจังหวะฝีเท้าแล้ว น่าจะมีสามคน
รอสไวส์ก้าวไปทางประตู และเมื่อเปิดออก ก็เห็นว่ามี “ลีออน” กับ “แอนนา” และอีกหนึ่งสาวใช้—“มิลาน” ซึ่งเป็นสาวใช้ที่อ่อนโยนและเอาใจใส่
ก่อนที่รอสไวส์จะทันได้ถามว่าพวกเขามาทำอะไรกัน สายตาของเธอก็เห็นว่า แอนนาเดินเข้ามาพร้อมกับแบบฟอร์มลงทะเบียน ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
“ฝ่าบาท หม่อมฉันเพิ่งรู้ว่าพระองค์อยากเรียนโยคะมาตลอด นี่เป็นความผิดของหม่อมฉันเอง ที่ไม่ได้คำนึงถึงความต้องการของพระองค์” แอนนากล่าวด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด
รอสไวส์กระพริบตาปริบ ๆ “ฉันไปพูดตอนไหนว่าอยากเรียนโยคะ?”
“หือ? ฝ่าบาทจำไม่ได้หรือเพคะ? ตอนที่พระองค์กับองค์ชายไปนครนภาเมื่อไม่นานมานี้ พระองค์ลงทะเบียนคลาสโยคะสำหรับหญิงตั้งครรภ์ไม่ใช่หรือ?”
แอนนายื่นแบบฟอร์มลงทะเบียนให้รอสไวส์ดู
“หม่อมฉันลองดูวันที่ลงทะเบียนแล้ว เห็นว่าพระองค์สมัครตั้งแต่ตอนที่ทรงพระครรภ์ได้เพียงสองเดือนเองเพคะ”
“อ่า…ก็ใช่…แต่เรื่องนี้—”
“ดูเหมือนว่าองค์ชายจะคิดไม่ผิดจริง ๆ คู่สามีภรรยาก็ต้องเข้าใจกันดีที่สุดสินะเพคะ”
น้ำเสียงของแอนนาเจือไปด้วยความ “อิจฉาแบบสาวใช้”—ไม่ว่าจะเป็นห่วงและใส่ใจราชินีแค่ไหน ก็ไม่มีทางเข้าใจพระองค์ได้ดีเท่ากับคนที่เป็น “คู่ชีวิต” อยู่ดี
รอสไวส์หรี่ตาลงเล็กน้อย ขบคิดถึงคำพูดของแอนนาที่ว่า “องค์ชายคิดไม่ผิดจริง ๆ”
…เดี๋ยว หมอนั่นไปพล่ามอะไรไว้อีก?
เธอเหลือบมอง “ลีออน แคสมอด” นักล่ามังกรตัวดีที่ยืนกอดอกอยู่ข้าง ๆ ด้วยสีหน้ากึ่งขำกึ่งกวนประสาท
—ดีมาก แคสมอด เจ้าเล่นตลกอะไรไว้ ข้าจะจัดการปิดปากสกปรกของเจ้าเองคืนนี้!—
“หลังจากที่พระองค์ทรงเริ่มบ่มเพาะรัชทายาท ภารกิจสำคัญของเผ่ามังกรเงินก็ถูกมอบหมายให้หม่อมฉันดูแลทั้งหมด” แอนนากล่าวต่อ
“องค์ชายบอกกับหม่อมฉันเมื่อเช้านี้ว่าบางทีพระองค์อาจกังวลว่าหม่อมฉันจะยุ่งเกินไป เลยไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องโยคะ แต่ฝ่าบาทเพคะ ไม่ว่าหม่อมฉันจะยุ่งแค่ไหน หม่อมฉันไม่มีวันละเลยความต้องการของพระองค์ ถ้ามีอะไร พระองค์สามารถบอกหม่อมฉันได้เสมอ”
“พอองค์ชายพูดถึงเรื่องนี้ หม่อมฉันก็นึกถึงมิลานขึ้นมาทันที ก่อนที่นางจะมาเป็นสาวใช้ นางเคยฝึกโยคะมาหลายปีและสามารถช่วยสอนพระองค์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
“การเดินทางไปนครนภาไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่หนาวเหน็บเช่นนี้ หม่อมฉันคิดว่าการเรียนที่บ้านก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกันเพคะ”
ในเรื่องส่วนตัวบางอย่าง แอนนาอาจไม่เข้าใจ “ราชินีของเธอ” ได้ลึกซึ้งเท่ากับลีออน “สามี” ตัวดีคนนั้น
แต่เมื่อได้รับมอบหมายงานใด ๆ แอนนาจะปฏิบัติอย่างรอบคอบไร้ที่ติเสมอ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เธอโดดเด่นเหนือสาวใช้คนอื่น ๆ และได้เป็นหัวหน้าสาวใช้ในที่สุด
มิลาน สาวใช้อีกคนที่ถูกเอ่ยถึง ก้าวออกมาด้านหน้า ก่อนคุกเข่าโค้งคำนับตามมารยาทอย่างสมบูรณ์แบบ “ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่หม่อมฉันจะได้ฝึกโยคะร่วมกับพระองค์เพคะ”
“ว่าไงเพคะ ฝ่าบาท คิดเห็นอย่างไรบ้าง?” แอนนายิ้มถาม
…คิดเห็นอะไรล่ะ?
ฉันไม่ต้องคิดก็เดาออก ไม่ต้องใช้หัวสมอง ใช้แค่หัวเข่าไตร่ตรองยังรู้ว่านี่เป็นแผนของหมาเจ้าเล่ห์อย่างลีออนแน่ ๆ หมอนี่แค่หาเรื่องแกล้งฉันชัด ๆ!
แน่นอนว่า รอสไวส์ ก็เข้าใจเหตุผลของ ลีออน ที่คิดจะแกล้งเธอ
ก็คงเพราะช่วงนี้ เธอใช้อำนาจแห่ง “หญิงตั้งครรภ์” บังคับเขาให้ทำอะไรแปลก ๆ อยู่ตลอด วัน ๆ เอาแต่ทรมานเขา เลยถูกเอาคืนบ้าง
แต่ลีออนก็มีขีดจำกัดของตัวเอง การแก้แค้นแบบธรรมดา ๆ ใช้กับหญิงตั้งครรภ์ไม่ได้ เขาก็เลยต้องใช้วิธีนี้—“กลยุทธ์ที่รุกก็ได้ รับก็ดี”
ถ้ารุก—เขาก็สามารถบอกได้ว่า “ฉันทำเพื่อเธอนะ ที่รัก!”
ถ้ารับ—เขาก็สามารถแกล้งพูดว่า “โอ้ ไม่! ที่รักของฉัน เธอไม่เข้าใจความรักของฉันเลย!”
…เธอควรจะอดทนกับชีวิตคู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ ใช่ไหม?
ตอนแรก รอสไวส์ ตั้งใจจะปฏิเสธข้อเสนอของแอนนา
แต่พอคิดดูดี ๆ… ถ้าเธอปฏิเสธการฝึกโยคะ ชีวิตการบ่มเพาะรัชทายาทของเธอคงเหลือแค่ “กิน-นอน-วนลูป”
แล้วถ้าขี้เกียจขนาดนั้น… เธอต้องอ้วนขึ้นแน่ ๆ
รอสไวส์นึกถึงเรื่องน่าอับอายเกี่ยวกับ “น้ำหนัก” ของเธอหลังคลอด โนอา กับ มูน ขึ้นมาได้
ถึงแม้เหล่าสาวใช้จะคิดว่า “ราชินีที่อวบขึ้นนิดหน่อยดูงามสง่ากว่าเดิม” แต่ก็เพราะ “ความอ้วนไม่ได้อยู่บนตัวพวกหล่อนเอง” น่ะสิ พวกเธอเลยพูดแบบนั้นได้เต็มปาก
แต่สำหรับรอสไวส์—การรีดน้ำหนักกลับมาหุ่นเดิมหลังคลอด เป็นเรื่องที่เหนื่อยแทบตาย!
…ฉันไม่อยากเจอเรื่องนั้นอีกแล้ว!
ถ้างั้น… ครั้งนี้ก็ปล่อยลีออนชนะไปเถอะ ฝึกโยคะรักษารูปร่างหน่อยก็คงไม่เสียหาย!
“ตกลง ขอบใจมากนะ แอนนา” รอสไวส์ตอบรับในที่สุด
“ไม่เป็นไรเลยเพคะ ฝ่าบาท ถ้าพระองค์มีอะไรเพิ่มเติมก็บอกหม่อมฉันได้ตลอดเลยนะเพคะ” แอนนาโค้งศีรษะเล็กน้อย
“ได้ ฉันจะบอก” รอสไวส์พยักหน้ารับ
“ถ้าอย่างนั้น หม่อมฉันจะไม่รบกวนเวลาของฝ่าบาทกับองค์ชายแล้ว มิลาน เจ้าไปจัดตารางเรียนกับฝ่าบาทให้เรียบร้อย ห้ามมีผิดพลาดเด็ดขาด”
“รับทราบค่ะ หัวหน้าสาวใช้” มิลานพยักหน้าอย่างนอบน้อม
เมื่อสั่งการเสร็จเรียบร้อย แอนนาก็เดินจากไปด้วยสีหน้าโล่งใจ
ด้านลีออน—เมื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเองแล้ว—ก็ทำตัวว่าง่าย นั่งนิ่ง ๆ อยู่มุมหนึ่งกลายเป็นเพียงผู้ชม
รอสไวส์ถลึงตาใส่เขาแรง ๆ แต่เพราะยังมีคนอื่นอยู่ในห้อง เธอจึงยังไม่ต่อปากต่อคำอะไรตอนนี้
พูดตอนนี้เดี๋ยวมิลานจะเข้าใจผิด คิดว่าเราสองคนกำลัง “ออเซาะ” กันอยู่ก็ยุ่งเลย…
…ไว้ค่อย “สอบสวนเชลย” ตอนอยู่กันสองคนก็แล้วกัน!
รอสไวส์หันไปมองมิลานที่อยู่ข้าง ๆ “เริ่มเลยไหม?”
“ได้เลยเพคะ ฝ่าบาท” มิลานตอบรับอย่างกระตือรือร้น
จากนั้น มิลานก็เดินไปที่ประตู ก่อนกลับเข้ามาพร้อมกับโยคะสองผืนในอ้อมแขน—หนึ่งสีดำ อีกหนึ่งสีฟ้า
“เตรียมพร้อมดีเหมือนกันนี่” รอสไวส์เอ่ย ขณะมิลานกำลังปูเสื่อโยคะลงบนพื้น
มิลานเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มถาม “ฝ่าบาทชอบสีไหนเพคะ?”
“ดำ” เธอตอบอย่างไม่ลังเล
เธอชอบสีดำจริง ๆ และลีออนก็รู้ข้อนี้ดีด้วย ตอนที่ทำแบบฝึกหัดทดสอบความเข้ากันได้ในการสอบเข้าโรงเรียนเซนต์ไฮส์ของโนอา พวกเขาต้องตอบสีที่อีกฝ่ายน่าจะเลือก
ตอนนั้นพวกเขาก็มองสีผมของกันและกันแล้วตอบว่า “เงิน” กับ “ดำ”
แน่นอน… นั่นไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษหรอก—อย่างน้อยลีออนกับรอสไวส์ก็ “เชื่อแบบนั้น” เสมอมา
หลังจากเลือกเสื่อเสร็จ มิลานก็ถามต่ออย่างสุภาพ
“ฝ่าบาทมีชุดกางเกงที่แนบตัวและระบายอากาศได้ดีไหมเพคะ?”
“มีสิ เดี๋ยวฉันไปเปลี่ยนก่อน” รอสไวส์พูดพลางเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อกล้ามสปอร์ตกับกางเกงโยคะที่เหมาะสำหรับการออกกำลังกายออกมา
หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จ เธอก็มัดผมสีเงินยาวของตัวเองเป็นหางม้าให้แกว่งอยู่ด้านหลัง
เรียวขายาวสวยที่ถูกกางเกงแนบเนื้อรัดเอาไว้ ดูเด่นสะดุดตา และแม้ท้องของเธอจะนูนขึ้นเล็กน้อยเพราะตั้งครรภ์ แต่ก็ไม่ได้ลดทอนความงามโดยรวมลงเลยแม้แต่น้อย
ทรวดทรงของเธอยังชัดเจน—แถมเสื้อผ้าชุดนี้ยังช่วยขับให้รูปร่างของเธอยิ่งดูมีเสน่ห์มากขึ้น
ไม่เหมือนกับรูปลักษณ์แบบสาวนักกีฬาในงานกีฬาของโรงเรียนคราวก่อน เวอร์ชันนี้ของรอสไวส์กลับมีความเย้ายวนแฝงอยู่
ลีออนที่อยู่มุมห้อง…เงียบ ๆ มองอยู่โดยไม่พูดอะไร
ปกติแล้ว ลีออนสามารถหาเรื่องจับผิดเธอได้แทบทุกอย่าง แต่ถ้าเป็นเรื่อง รูปร่างกับหน้าตา ของรอสไวส์—เขาไม่มีอะไรจะติเลยจริง ๆ
ในแง่นี้ ทั้งคู่ก็คล้ายกันไม่น้อย เพราะครั้งหนึ่งรอสไวส์เองก็เคยพูดไว้ตอนที่เห็นลีออนในคุกใต้ดินว่า “ชายคนนี้หน้าตาดีไม่เลว”
สรุปได้เลยว่า… สามีภรรยาคู่นี้เป็นพวกบูชาหน้าตาอย่างแท้จริง
ลีออนเบือนสายตาไปทางอื่น ไม่อยากมองนานเกินไป เพราะไม่อยากเผลอไปหลงใหลในข้อดีของภรรยาเข้าจริง ๆ
และแล้ว… คลาสโยคะก็เริ่มขึ้น
ลีออนถอนหายใจอย่างโล่งอกในใจ—ในที่สุด เธอก็มีอะไรให้ทำแล้ว… จะได้เลิกวุ่นวายกับผมสักที~
บท 156 สามวันอันภาคภูมิใจ
บท 156 สามวันอันภาคภูมิใจ คลิกอ่านที่นี่
รอสไวส์ มีความยืดหยุ่นของร่างกายดี และการประสานกล้ามเนื้อก็ยอดเยี่ยม ทำให้การเรียนโยคะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอเลย
มิลาน เองก็รู้สึกประหลาดใจกับศักยภาพทางร่างกายของราชินี และความสามารถในการเรียนรู้ที่รวดเร็ว
นี่ไม่ใช่คำเยินยอ แต่เป็นความรู้สึกจริงจากใจ
ส่วนลีออน… นั่งฟังอยู่ไม่ถึงสิบห้านาทีก็ลุกเดินออกจากห้อง โดยอ้างว่า จะไปเล่นกับโนอาและมูน
มันไม่ใช่ว่า นักล่ามังกร ขาดความอดทนหรอก—แต่ให้โทษที่ว่า “ขายาวของแม่มังกร” มันสะดุดตาเกินไปต่างหาก
ถ้ามัวแต่มองต่อไปเรื่อย ๆ มีหวัง รอยสักมังกรในตัวเขาคงเปล่งแสงแวววาวแน่ ๆ!
เมื่อเห็นลีออนรีบออกจากห้องไป รอสไวส์ก็อดคิดไม่ได้ว่า
“หนอย คิดว่าจะมีความอดทนฟังคลาสจนจบ ที่ไหนได้ นั่งอยู่ไม่ถึงสิบนาทีก็ชิ่งหนีแล้ว”
หึ ช่างเถอะ ไปก็ดี ถ้ายังอยู่ตรงนี้ ฉันก็คงไม่มีสมาธิฝึกหรอก
เธอคิดอย่างนั้นจริง ๆ
ไม่รู้ทำไม เวลาที่ลีออนอยู่ใกล้ ๆ เธอทีไร ความสนใจของเธอก็จะไขว้เขวทุกที
และดูเหมือนว่าอาการนี้จะเริ่มต้นเมื่อสองเดือนก่อน…
ตอนนั้น เธอยังต้องทำงานต่อเนื่องในห้องทำงานตอนกลางคืน ถ้างานยุ่งเกินไป ลีออนก็จะทำของว่างง่าย ๆ มาให้เธอ
บางครั้งเขาก็แค่นั่งเงียบ ๆ อยู่ข้าง ๆ คอยดูเธอทำงาน
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น รอสไวส์ก็ยังคงเสียสมาธิอยู่ดี…
คนบ้างานอย่างเธอ ไม่เคยเสียสมาธิเพราะสิ่งรอบข้าง
แต่ไม่รู้ทำไม… ลีออน กลับส่งอิทธิพลต่อเธอได้อย่างประหลาด
ชิ หมอนี่มันหมาแท้ ๆ—เห็น ๆ อยู่ว่าฉันกับเขาเข้ากันไม่ได้ แล้วทำไมถึงมีผลกับฉันแบบนี้ก็ไม่รู้!
รอสไวส์ส่ายหัวเล็กน้อย ไล่ความคิดกระจัดกระจายออกจากหัว แล้วกลับมาตั้งใจฝึกโยคะอย่างจริงจัง
พูดตามตรง—การฝึกโยคะนี่ได้ผลดีทีเดียว
ประโยชน์ของโยคะครอบคลุมทั้งร่างกาย ไม่เพียงแค่ช่วยกระตุ้นกล้ามเนื้อทุกส่วนเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อ การฟื้นฟูร่างกายหลังคลอด อีกด้วย
ที่สำคัญที่สุดคือ—การฝึกโยคะช่วยทำให้จิตใจของรอสไวส์สงบลงได้ด้วย
การพึ่งพาแต่ของเสริมเช่น ผลมังกรหยก ที่มีสรรพคุณกล่อมครรภ์และบำรุงจิตใจ แม้จะได้ผลดี แต่ก็ยังมีขีดจำกัดในระดับหนึ่ง
แต่ถ้าได้ฝึกโยคะควบคู่กันอย่างเหมาะสม จะเป็นผลดีต่อทั้งตัวรอสไวส์เอง และตัวเด็กในครรภ์ด้วย
“เจ้านั่น… ลีออน หมอนั่นทำเรื่องที่มีประโยชน์กับฉันโดยไม่ตั้งใจอีกแล้วสินะ” รอสไวส์คิดในใจ
คลาสโยคะยังคงดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น
กระทั่งหลายชั่วโมงผ่านไป—ลีออนก็กลับมาจากข้างนอก
ร่างกายของลีออนเต็มไปด้วยไอเย็น เขาไม่ได้เดินเข้าบ้านทันที แต่เลือกถอดเสื้อคลุมที่เต็มไปด้วยหิมะไว้ที่หน้าประตูก่อน แล้วปัดหิมะออกจากศีรษะ รอให้ความเย็นจางลงเล็กน้อยถึงค่อยใส่รองเท้าแตะแล้วเดินเข้ามา
หญิงตั้งครรภ์กลัวความหนาวเย็น และลีออนก็รู้ข้อนี้ดี—เขาจึงใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
เมื่อมาถึงห้องนอน เขาก็พบว่า มิลาน กลับไปแล้ว เหลือเพียง รอสไวส์ ที่ยังคงฝึกโยคะอยู่
เธอได้ยินเสียงฝีเท้า ก็รู้ทันทีว่าเป็นลีออน จึงไม่หันกลับไป มุ่งมั่นฝึกท่าต่อไปอย่างเงียบ ๆ
ท่าโยคะที่รอสไวส์กำลังฝึกอยู่ตอนนี้เรียกว่า “Pilates Push-Up” ซึ่งแตกต่างจากวิดพื้นทั่วไป เพราะต้องวางเข่าข้างหนึ่งไว้บนพื้น อีกข้างเหยียดตรงต่อเนื่องกับแนวกระดูกสันหลัง ขณะที่ข้อศอกทั้งสองข้างต้องชิดลำตัวมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ท่านี้จะช่วยลดภาระจากแขน และไปเน้นการใช้แรงจาก “แกนกลางลำตัว” โดยเฉพาะบริเวณเอวและหน้าท้องแทน
“โอ้ ท่ามาตรฐานเลยนะ” ลีออนเดินเข้ามา ก่อนนั่งขัดสมาธิลงข้าง ๆ รอสไวส์
รอสไวส์ยังคงวิดพื้นต่อไป แขนของเธอเรียวแต่ไม่บางจนเกินไป ส่วนเอวและสะโพกก็เคลื่อนไหวเป็นจังหวะอย่างงดงาม ราวกับแนวเขาที่ทอดตัวอย่างมีชีวิตชีวา
เธอเหลือบมองลีออนแวบหนึ่ง “มิลานก็บอกว่าฉันทำได้มาตรฐานเหมือนกัน นายอยากให้ฉันสอนไหมล่ะ?”
“ไม่ล่ะ ขอบาย ผมไม่อยากใส่กางเกงรัด ๆ แล้วต้องทำท่าแปลก ๆ แบบนี้ ออกกำลังกายแบบเดิม ๆ เหมาะกับฉันมากกว่า”
“หึ!”
รอสไวส์เชิดหน้าหน่อย ๆ ก่อนเมินเขา แล้ววิดพื้นต่อไปอย่างมุ่งมั่น
ก่อนกลับ มิลานได้บอกไว้ว่าท่านี้ถือเป็นพื้นฐานที่สุดของพื้นฐาน และการฝึกซ้ำ ๆ บ่อย ๆ จะช่วยวางรากฐานที่มั่นคงให้กับคลาสโยคะในอนาคต
บังเอิญเหลือเกิน… ตอนนี้รอสไวส์ก็มีเวลาเหลือเฟือ จะฝึกนานแค่ไหนก็ไม่มีปัญหา
ลีออนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เห็นภาพตรงหน้า ก็อดนึกถึง งานกีฬาสีของโรงเรียน ไม่ได้
ตอนนั้นเขาทุ่มเทเต็มที่เพื่อช่วยให้ โนอา ทำผลงานได้ดีในวันงาน ถึงขนาดฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายของตัวเองเต็มที่
วิดพื้น ซิทอัพ วิ่งระยะไกล—กลายเป็นกิจวัตรประจำวัน
และเขาจำได้แม่นเลยว่า ครั้งหนึ่งขณะวิดพื้น…
รอสไวส์ เคยเลื่อนตัวลอดใต้เขา แล้วแกล้งพูดกับเขาว่า:
“ถ้าหมดแรงขึ้นมา… นายต้องจูบฉันนะ~”
ตอนนั้น—ห้าร้อยครั้ง ถือเป็นจำนวนที่เกินขีดจำกัดของลีออนในสภาพที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่เพราะมีแม่มังกรตัวดีนอนอยู่ใต้ตัวในฐานะ “ตาข่ายรองรับ” แบบนั้น เขาจึงกัดฟันทำจนสำเร็จ
เขายังจำได้ดีเลยว่า… คืนนั้นตอนกินข้าว แขนเขาอ่อนแรงจนยกช้อนไม่ไหว ต้องให้ มูน ป้อนข้าวให้แทน
ตัดกลับมาปัจจุบัน—ลีออนหรี่ตาลง มองรอสไวส์อย่างพินิจพิเคราะห์
ความซนในท้องเริ่มปั่นป่วนแล้ว…
ไม่กี่วินาทีต่อมา สายตาของรอสไวส์ก็เหลือบมาเจอหน้าเขาพอดี—แต่เป็นมุมกลับหัว
เพราะท่า Pilates Push-Up แตกต่างจากวิดพื้นแบบดั้งเดิม ทำให้ลีออนไม่สามารถเลื่อนตัวไปอยู่ใต้รอสไวส์ได้แบบเดิม…
นอกจากนี้ ตอนนี้เธอก็กำลังตั้งครรภ์อยู่—ถ้าบังเอิญไปกระแทบท้องเข้าล่ะก็ คงไม่ดีแน่
ดังนั้น ลีออนจึงเปลี่ยนวิธีแทน—เขาเอียงตัว แล้วเลื่อนศีรษะเข้าไปอยู่ ตรงใต้ใบหน้าของรอสไวส์พอดี
แม้ใบหน้าของทั้งคู่จะกลับหัวกลับหางจากมุมมองของกันและกัน แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา—อิมแพคยังคงได้ผลเหมือนเดิม
“นายทำอะไรของนาย?” รอสไวส์ถามเสียงเย็น ขณะที่ยังค้างท่าอยู่โดยใช้แขนยันตัวไว้
“ก็แค่จะให้แรงบันดาลใจเธอเพิ่มขึ้นนิดหน่อยไงล่ะ ถ้าเธอหมดแรงขึ้นมาล่ะก็… ต้องจูบนักล่ามังกรคนนี้นะ เธอไม่อยากเหรอ?” ลีออนพูดยิ้มเจ้าเล่ห์
บทสนทนาแบบนี้—คลาสสิกสุด ๆ และยังคงเขย่าใจรอสไวส์ได้ทุกครั้ง
เธอรู้ดีว่าลีออนจงใจหยิบเรื่องเก่ามาเล่น แต่สุดท้ายก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “เด็กน้อยจริง ๆ เลย”
แม้จะว่าเขาเป็น “เด็กน้อย” แต่รอสไวส์ก็ไม่ได้ผลักเขาออกไปแต่อย่างใด—เธอยังคงวิดพื้นต่อไป
จากมุมมองของลีออน ใบหน้าที่งดงามของเธอเคลื่อนไหวขึ้นลง—บางครั้งห่าง บางครั้งก็ใกล้จนแทบสัมผัส
เส้นผมสีเงินของเธอปลิวเบา ๆ ลูบแก้มของเขา สร้างความรู้สึกจั๊กจี้แบบอ่อนโยน
หลังจากฝึกโยคะต่อเนื่องมาหลายชั่วโมง ใบหน้าของรอสไวส์ก็มีเหงื่อซึมบาง ๆ เคลือบอยู่ ดวงตาสีเงินที่เปล่งประกายเหลือบมองเขาลงมาอย่างเกียจคร้าน แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์
ไม่รู้ว่าเธอเริ่มเหนื่อย หรือแค่ “แกล้งทำเป็นเหนื่อย”
ลมหายใจอุ่น ๆ ของเธอพ่นลงมาบนใบหน้าของลีออนอย่างแผ่วเบา แฝงกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากริมฝีปากของเธอ
ไม่นานนัก จังหวะการวิดพื้นของรอสไวส์ก็เริ่มช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
หลายครั้งที่ริมฝีปากของเธอสัมผัสจมูกของลีออนเบา ๆ แล้วรีบดึงกลับทันที…
“ถ้าหมดแรงก็ยอมแพ้เถอะ ข้ามไปสองสามท่า กล้ามเธอไม่ได้หายไปไหนหรอกน่า” ลีออนหัวเราะเบา ๆ
ไอ้ลูกหมานี่จะยิ้มอะไรนักหนา?
ถ้าเธออยากหยุด เธอก็หยุดได้อยู่แล้ว—เธอไม่ได้ตั้งเป้าไว้ด้วยซ้ำ!
ที่เธอฝืนทำมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่เพราะ “ความเคยชินที่อยากเอาชนะหมอนี่” เท่านั้น
ดูท่าหมอนี่จะเหลิงอีกแล้ว
ลีออน แคสมอด… ไม่แกล้งนายสักสามวัน นายก็เหลิงใหญ่เลยใช่ไหม?
ในจังหวะที่ลีออนกำลังได้ใจอยู่นั้น—รอสไวส์หยุดวิดพื้นกะทันหัน แล้วเปลี่ยนมาค้ำข้อศอกลงบนเสื่อโยคะแทน
ใบหน้าสวยของเธอโน้มลงมาใกล้ลีออน ดวงตาทั้งคู่สบกันแนบแน่น ราวกับจะถ่ายทอดลมหายใจถึงกันและกัน…
รอยยิ้มของลีออนแข็งค้างในทันที—เขารู้สึกถึง “บางอย่างไม่ชอบมาพากล”
เขาพยายามขยับตัวเล็กน้อยเพื่อจะเลี่ยงออกไปเงียบ ๆ…แต่ช้าไปหนึ่งก้าว
รอสไวส์ยื่นมือมาจับคางของเขาไว้—กันไม่ให้หนีออกจากใต้ใบหน้าของเธอ
ด้วยตำแหน่งที่กลับหัวพอดิบพอดี การจับคางแบบนี้จึงดูเป็นธรรมชาติเสียเหลือเกิน
ลีออนสบตากับเธอตรง ๆ แม้ใบหน้าของเขาจะอยู่ในมุมกลับหัว แต่ก็ยังคงความหล่อเหลาทรงเสน่ห์ไม่เปลี่ยน
สายตาของทั้งคู่ประสานกันแนบแน่น—ในใจเริ่มมี “ความโหยหา” และ “แรงปรารถนา” ที่คุ้นเคยค่อย ๆ แทรกขึ้นมาอีกครั้ง
มือหนึ่งของรอสไวส์จับคางลีออนไว้อย่างมั่นคง ส่วนอีกมือหนึ่งก็ค่อย ๆ ลูบเล่นเบา ๆ ที่ติ่งหูของเขาซึ่งเริ่มร้อนขึ้นเรื่อย ๆ
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของราชินีมังกร…ผุดขึ้นบนใบหน้าเธออย่างช้า ๆ
“นายพูดถูกเลยนะ ที่รัก… ฉันทำต่อไม่ไหวแล้วล่ะ… ขอรับโทษจากนายก็แล้วกัน”
“รอสไวส์—”
เธอไม่รู้หรอกว่าเขากำลังจะพูดอะไร แต่การจูบให้เงียบไปก่อนก็ดูเป็นความคิดที่ดีไม่น้อย
การจูบในมุมกลับหัวแบบนี้ เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยลองมาก่อน
ความรู้สึกแปลกใหม่แต่นุ่มนวล… ลึกซึ้งและชวนหลงใหล
ในตำแหน่งนี้ จมูกของลีออนสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่ลอยออกมาจากลำคอของรอสไวส์
กลิ่นหอมของหญิงตั้งครรภ์… ทั้งลึกลับ ทั้งเย้ายวน จนแทบจะทำให้หลงใหล
ริมฝีปากและปลายลิ้นที่สัมผัสกัน—ในมุมและทิศทางที่ไม่เหมือนเดิม—สร้างความรู้สึกที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยในคราวเดียวกัน…
หลังจากห่างหายไปนาน พวกเขาทั้งสองก็ได้กลับมา “เสพติดกันและกัน” อีกครั้ง—แต่ในรูปแบบใหม่โดยสิ้นเชิง
ฝ่ามือที่อ่อนโยนค่อย ๆ ลูบแก้มของอีกฝ่าย ก่อนจะเลื่อนไปที่ท้ายทอย เพิ่มแรงกดเล็กน้อยเพื่อให้ริมฝีปากแนบชิดยิ่งขึ้น
หากการจูบในอดีตต้องอาศัย “ความมืดของยามค่ำคืน” เป็นฉากหลัง เพื่อให้หัวใจกล้าขึ้น—
แล้วจะอธิบายยังไงกับจูบกลางวันแสก ๆ บนพื้นเสื่อโยคะนี่ล่ะ?
จะให้สารภาพว่า “ฉันแค่อยากจูบนาย” หรือ “ผมแค่อยากจูบเธอ” …ดูจะยากไปหน่อยสำหรับคู่สามีภรรยาคู่นี้
เมื่อจูบดำเนินไปถึงจุดที่ลึกซึ้งที่สุด—เกล็ดมังกรบนร่างเริ่มเปล่งแสงแผ่วเบา
ทั้งสองคนจึงหยุดไว้ก่อน—หยุดอย่างพอดิบพอดี
แน่นอนว่า…ก่อนจะสิ้นสุดจูบอย่างสมบูรณ์ รอสไวส์ก็โน้มตัวลงมาข้างหน้าแล้ว ประทับริมฝีปากเบา ๆ บนลูกกระเดือกของลีออน
จากนั้นเธอก็เอนตัวลงบนเสื่อโยคะอย่างผ่อนคลาย…
ทั้งสองนอนหันหน้าเข้าหากัน—แม้จะยังอยู่ในมุมกลับหัว แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกใด ๆ เลย
รอสไวส์เกี่ยวแขนเรียวยาวไว้ก่อนค่อย ๆ คลึงติ่งหูอีกข้างของลีออนอย่างอ้อยอิ่ง ไม่ยอมปล่อยมือ
ขณะที่ลีออนก็ปล่อยให้ปลายนิ้วอุ่น ๆ ของเธอ ลูบไล้ไปทั่วใบหน้าของเขาอย่างอิสระ
พวกเขารับฟังเสียงลมหายใจของกันและกันที่ค่อย ๆ สงบลง
รอสไวส์มองเพดานอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรู้สึกตัวแล้วถามออกมาเบา ๆ
“จริงสิ… นายไม่ได้ให้ฉันฝึกโยคะเพราะอยากแกล้งฉันหรอกใช่ไหม?”
ลีออนหลับตา เอื้อมมือไปจับข้อมือของเธอไว้แผ่วเบา
“เปล่า ผมก็แค่อยากแกล้งเธอเท่านั้นเอง”
“เหรอ? ไม่ใช่ว่า… นายเป็นห่วงภรรยาท้องโตที่เหงาและเบื่ออยู่บ้าน เลยวางแผน ‘การแก้เผ็ด’ แบบเนียน ๆ ที่ดูเหมือนจะเข้ากับสไตล์ของนายเป๊ะ แต่จริง ๆ แล้วเป็นการซ่อนเจตนาแท้จริงไว้อย่างแนบเนียนงั้นเหรอ?”
นักล่ามังกรที่ยอดเยี่ยมแบบลีออน จะ “เผลอทำ” อะไรได้ยังไงกัน?
ทุกอย่างที่เขาทำ… ล้วนผ่านการวางแผนอย่างรอบคอบ คิดเผื่อทุกความเป็นไปได้มาแล้วทั้งนั้น
ลีออนจ้องมองกลับมาที่เธอ ก่อนจะเอ่ยชื่อเธอออกมาอย่างช้า ๆ
“รอสไวส์…”
“หืม?”
เธอจ้องตาเขาอย่างลึกซึ้ง คิดว่าอีกฝ่ายคงจะพูดอะไรซึ้ง ๆ จนเธอต้องอายตัวม้วนแน่แล้ว
แต่…เธอก็ประเมินหมอนี่สูงเกินไปอีกครั้ง
“บ่ายนี้ วิดพื้นห้าร้อยครั้งด้วย… เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงนะ ที่รัก”
“…ไสหัวไปตายซะไป้!”
บท 157: พายุใกล้เข้ามาแล้ว
บท 157: พายุใกล้เข้ามาแล้ว คลิกอ่านที่นี่
“บันทึกราชินี” (ฉบับคุณแม่ตั้งครรภ์):
“วันที่ 13 มกราคม วันนี้หิมะตกอีกแล้ว และแอนนาก็ยังไม่ยอมให้ฉันออกจากบ้านตามเคย ฉันเลยต้องฝึกโยคะกับมิลานต่อในบ้าน วันนี้ลีออนอยู่ดูตลอดคลาสด้วย พอคลาสจบ ฉันก็ไปยืนที่ระเบียง มองดูลูกสาวทั้งสองคนเล่นหิมะอยู่ในสวนเหมือนทุกวัน”
“ลีออนยืนอยู่ข้าง ๆ ฉันอยู่พักหนึ่ง ก็ดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออก แล้วรีบวิ่งออกไป พอกลับมา… เขาถือ ‘ตุ๊กตาหิมะตัวเล็ก’ ที่ละลายไปเกือบครึ่งไว้ในมือ”
“ตุ๊กตาหิมะตัวนั้นชัดเจนว่าเป็น ‘ผู้หญิง’ มีผมยาว หน้ารูปไข่ และมีหางที่แม้จะทำหยาบ ๆ แต่ก็สื่อออกมาได้ชัดว่า ‘ตัวนี้คือรอสไวส์’”
“ตอนแรกฉันก็ว่าจะชมเขาหน่อยนะ ว่ารู้จักทำอะไรน่ารัก ๆ เอาใจฉันบ้างแล้ว แต่แล้วหมอนั่นกลับพูดว่า ‘มันน่ารักใช่ไหมล่ะ?’ แล้วก็ฟาดตุ๊กตาหิมะนั่นจนแหลกคามือ!!”
“การกระทำของหมอนั่นตีเข้าแสกหน้าจังๆสองจุดในคราวเดียว: หนึ่ง มันเป็นสิ่งที่ฉันอยากทำกับเขามานานแล้ว แต่เขาดันทำก่อน; สอง หิมะที่ละลายเปื้อนพื้นห้องฉันจนเลอะเทอะ”
“ก็ได้…เขาปั้นตุ๊กตาหิมะเป็นฉันตอนกลางวัน งั้นฉันก็จะปั้น ‘ผู้ชายตัวจิ๋ว’ เป็นเขาตอนกลางคืน! และแน่นอนว่า หมอนั่นก็ยอมแพ้ แล้วปั้นตุ๊กตาหิมะตัวใหม่ให้ฉันอีกรอบ วางไว้หน้าระเบียงให้เสร็จสรรพ”
“อืมม… ก็พอใจอยู่ล่ะนะ”
“วันที่ 14 มกราคม: โยคะ”
“วันที่ 15 มกราคม: โยคะ”
“วันที่ 16 มกราคม: โยคะ”
“วันที่ 17 มกราคม: ฉันให้มิลานหยุดหนึ่งวัน”
“ทุกอย่างดูเหมือนจะไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้แต่แรก ถึงโยคะจะช่วยฆ่าเวลาได้ก็จริง แต่พอฝึกนานเข้า มันก็เริ่มน่าเบื่อขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ดี”
“ฉันนึกอยากจะออกไปเดินเล่นข้างนอก…แต่ก็คงไม่ต้องเดาเลยว่าแอนนาจะยอมไหม”
“วันที่ 18 มกราคม: พระราชวังของฉันกลายเป็น ‘คุก’ สำหรับฉันโดยสมบูรณ์ และตอนนี้ฉันกำลังวางแผนแหกคุก โดยมีลีออน แคสมอดเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด!”
“วันนี้เราวางแผนหลบหนีอย่างละเอียดถี่ถ้วน”
“หนึ่ง—หลังอาหารเย็นพรุ่งนี้ ลีออนจะไปหาแอนนา โดยอ้างว่าจะตรวจสอบงานที่เธอรับผิดชอบแทนฉัน และตรวจตราพื้นที่ต่าง ๆ ภายในวัง”
“ระหว่างนั้น ฉันจะแอบเล็ดรอดออกไปทาง ‘ประตูหน้า’ เพราะที่อันตรายที่สุดก็คือที่ปลอดภัยที่สุด—แอนนาไม่มีทางคาดคิดแน่ ๆ ว่าฉันจะกล้าออกทางประตูใหญ่!”
“สอง—ฉันจะเตรียมชุดสาวใช้ไว้ให้เรียบร้อย เพื่อให้ทหารยามเข้าใจผิด คิดว่าฉันเป็นคนของกองสาวใช้ จะได้ไม่ก่อให้เกิดความสงสัย”
“สุดท้าย—กว่าแอนนาจะรู้ตัวว่าราชินีของเธอหลบหนีสำเร็จ ฉันก็คงได้เล่นหิมะกับลูกสาวสุดที่รักไปนานแล้วล่ะ!”
“เมื่อแผนไร้ที่ติ… การหลบหนีจึงต้องสำเร็จแน่นอน!”
“วันที่ 19 มกราคม: แผนหลบหนีล้มเหลว”
แอนนากล่าวว่า องค์ชายไม่เคยสนใจเรื่องงานของเผ่ามังกรเงินอยู่แล้ว อยู่ดี ๆ มาตรวจงานก็ผิดปกติชัดเจน เธอจึงระวังตัว และในที่สุดก็จับพิรุธของแผนหลบหนีของฉันได้!”
“เจ้าบื้อแคสมอด! แค่ภารกิจง่าย ๆ ยังจัดการไม่ได้ จะมีประโยชน์อะไรต่อราชินีคนนี้กัน?!”
“…”
“วันที่ 20 กุมภาพันธ์: เข้าสู่เดือนที่หกของการตั้งครรภ์—ท้องเริ่มใหญ่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ปวดหลังบ่อย ลุกยืนหรือยืนนานเกินไปก็ไม่ไหว คลาสโยคะก็ต้องหยุดไปโดยปริยาย”
“ชีวิตประจำวันตอนนี้เหลือแค่—เตียง โต๊ะอาหาร และห้องน้ำ…วนลูปซ้ำ ๆ ไปวัน ๆ”
“วันที่ 21 กุมภาพันธ์: ลีออนเอาของเล่นใหม่ ๆ มาให้ฉันเพียบเลย—รูบิค รถไม้ ตัวต่อ ปริศนาเก้าห่วง แล้วก็ของจุกจิกแปลก ๆ อีกหลายอย่าง ฉันถามว่าไปเอามาจากไหน หมอนั่นบอกว่า ‘ทำเอง’… แต่ของพวกนี้มันคือ ‘ผลึกแห่งปัญญาของมนุษย์’ ไม่ใช่หรือ? พวกมังกรอย่างพวกนายมีของแบบนี้ด้วยเหรอ?”
“วันที่ 25 มีนาคม: โนอากำลังจะเปิดแทอมอีกครั้ง เทอมที่สองของโรงเรียนเซนต์ไฮส์ ฉันตั้งตารอดูว่าลูกสาวของฉันจะทำผลงานได้ดียิ่งขึ้นแค่ไหน”
“…”
“วันที่ 5 มีนาคม: ขณะวัดส่วนสูงของมูน ฉันพบว่าเธอโตขึ้นมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว”
“จากที่เคยเป็น ‘เจ้าจิ๋วไซซ์มินิ’ ตอนนี้กลายเป็น ‘เด็กน่ารักไซซ์กลาง’ แล้วล่ะ และถ้ายังโตต่อไปแบบนี้… สิ้นปีนี้คงกลายเป็น ‘เด็กน่ารักเต็มตัว’ แน่ ๆ”
“ลีออนบอกว่าลูกสาวของเรายิ่งโตยิ่งน่ารัก—เหมือนเขาไม่มีผิด”
“ฉันก็บอกเขาไปว่า ‘หน้าไม่อาย’”
“เขาก็หน้าแดงลนลานใหญ่เลย”
“ไม่ต้องห่วงนะ… ถึงตานายเขินตัวม้วนจะมาถึงแน่ ๆ”
“วันที่ 6 มีนาคม: หมอประจำเผ่ามาตรวจร่างกายให้ฉัน บอกว่าเด็กในท้องกำลังพัฒนาได้ดี คาดว่าน่าจะคลอดได้ประมาณช่วงปลายเดือนมิถุนายนปีนี้”
“หมอยังบอกอีกว่า สุขภาพโดยรวมของฉัน—โดยเฉพาะสภาพจิตใจ—ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับตอนท้องโนอากับมูน ซึ่งจะส่งผลดีต่อพัฒนาการของเด็กในครรภ์อย่างมาก”
“ก่อนกลับ หมอก็แอบกระซิบใส่ฉันเบา ๆ ว่า— ‘ฝ่าบาท ที่ปีนี้สุขภาพจิตดีขนาดนี้…เพราะมีองค์ชายอยู่เคียงข้างใช่ไหมเพคะ?’”
“ถึงฉันจะไม่อยากยอมรับ… แต่ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ลีออนก็ช่วยบรรเทาความเครียดของฉันช่วงตั้งครรภ์ได้มากจริง ๆ”
‘100 วิธีใช้เชลยศึกให้คุ้มค่า: รับบทเป็นสามีจำแลง’
“…”
“วันที่ 7 เมษายน: พี่สาวฉันเขียนจดหมายมาหา ในจดหมายนั้นพูดถึง ‘ราชามังกรเพลิงชาด คอนสแตนติน’ ซึ่งเราเคยพูดถึงกันตอนเจอกันที่นครลอยฟ้าครั้งก่อน”
“เธอบอกว่าไม่นานมานี้ คอนสแตนตินได้ส่งกองกำลังจำนวนมากไปรบกวนแถบที่อยู่ของเผ่ามังกรลม ก่อให้เกิดการปะทะขนาดย่อยขึ้นหลายครั้ง คล้ายกับพยายามจุดชนวนความขัดแย้งให้กลายเป็นสงครามระหว่างสองเผ่า”
“แต่สิ่งที่แปลกคือ คอนสแตนตินยังไม่ได้ส่งกำลังหลักหรือทัพเอกเข้าไปเลย เขาแค่คอยจับตาพรมแดนของเผ่ามังกรลมอย่างใกล้ชิดเท่านั้น”
“เรื่องนี้อาจเป็นลางบอกเหตุของสงครามที่ใกล้จะปะทุ พี่สาวฉันบอกว่าเธอกำลังแอบติดต่อกับเผ่ามังกรลมอย่างลับ ๆ เพราะกลัวว่าคอนสแตนตินจะใช้กลอุบายอะไรบางอย่าง ที่จะทำให้เผ่ามังกรแดงต้องกลายเป็นฝ่ายถูกโจมตีเสียเอง”
“ด้วยเหตุนี้ เธอจึงยังมาเยี่ยมฉันช่วงตั้งครรภ์ไม่ได้ และก็เขียนมาขอโทษในเรื่องนั้นด้วย”
“ฉันก็ตอบกลับไปว่าไม่จำเป็นต้องขอโทษ หากจำเป็น ฉันสามารถส่งกำลังบางส่วนของเผ่ามังกรเงินไปช่วยเธอได้ตามที่เราเคยตกลงกันไว้ก่อนหน้า”
“เธอบอกว่ายังไม่จำเป็นในตอนนี้—แต่ถ้าถึงเวลาจริง เธอจะขอความช่วยเหลือจากฉันแน่นอน”
“ฉันได้แต่ภาวนาขอให้พี่ปลอดภัยดี”
“…”
“วันที่ 15 พฤษภาคม: โนอากลับบ้านช่วงสุดสัปดาห์ และบอกว่าปลายเดือนหน้าเธอจะเริ่มปิดเทอมฤดูร้อนแล้ว”
“โนอาบอกว่า หลังจากฉันคลอดลูกแล้ว พวกเราครอบครัวห้าคนจะไปเที่ยวทะเลด้วยกันทั้งบ้าน แน่นอนว่า… ฉันก็ตอบตกลงทันที”
“ในขณะเดียวกัน ฉันก็อดถอนหายใจไม่ได้—เวลาช่างผ่านไปเร็วจริง ๆ ตอนนี้ใกล้ถึงกำหนดคลอดเต็มทีแล้ว”
“วันที่ 29 พฤษภาคม: ช่วงบ่าย มีเสียงฟ้าร้องกึกก้องดังมาจากภูเขาด้านหลังวิหาร และแม้แต่ท้องฟ้าก็เริ่มมืดครึ้มไปด้วยก้อนเมฆสีดำ เพราะแรงปะทะของเวทมนตร์ที่รุนแรงเกินต้าน”
“ตอนแรกฉันคิดว่าอาจมีสัตว์เวทอันตรายแอบลอบเข้ามา… จนกระทั่งเห็นลีออนแอบย่องกลับมาจากภูเขาหลังวิหารผ่านระเบียงตาเปล่า ฉันก็รู้ทันที—หมอนั่นต้องไปก่อเรื่องแน่ ๆ”
“ระหว่างมื้อเย็น ฉันถามเขาว่าไปทำอะไรที่หลังภูเขา ถึงได้ก่อความวุ่นวายขนาดนั้น?”
“หมอนั่นอึกอัก เหมือนมีอะไรปิดบังอยู่ ไม่อยากพูดใช่ไหม? ได้เลย งั้นนัดกันตีสองครึ่ง คืนนี้เล่นเกม ‘พิสูจน์ความจริง’ ชำระหนี้เก่ากันสักรอบ!”
“สุดท้ายก็ได้รู้ว่า ตอนบ่ายหมอนั่นไป ‘ทดสอบระดับการฟื้นตัวของเวทมนตร์ตัวเอง’”
“ดูจากเสียงฟ้าร้องสนั่นและฉาก ‘ฟ้าถล่มดินทลาย’ แบบเวอร์ ๆ นั่น… ดูเหมือนว่า เจ้าลูกหมาจะฟื้นพลังกลับมาเต็มที่แล้วสินะ!”
“แต่สิ่งที่เพิ่งรู้ก็คือ—ก่อนหน้านี้หมอนั่นอยู่ในสภาวะปริมาณเวทมนตร์พร่อง! บ้าเอ๊ย… ปิดได้มิดชะมัด! ถ้าฉันรู้เร็วกว่านี้นะ… ฉันคงกลั่นแกล้งเขาให้หนักกว่านี้ก่อนที่พลังจะฟื้นตัวเต็มที่แน่ ๆ!”
“วันที่ 29 มิถุนายน: วันคลอดของรอสไวส์”
“ช่วงเย็น ห้องนอนเต็มไปด้วยสมาชิกทีมสาวใช้ และหมอหญิงฝีมือเยี่ยมจากเผ่าหลายคน”
“การคลอดของราชินีเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด—ห้ามมีข้อผิดพลาดใด ๆ เด็ดขาด”
เธอนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ ร่างกายอ่อนแรงจนแทบขยับไม่ได้—เป็นระยะ ๆ ก็มีอาการบีบรัดของมดลูกเกิดขึ้น ทำให้เหงื่อหอม ๆ ผุดขึ้นเต็มหน้าผากและแก้มของเธอ
หมอหญิงหลายคนคอยตรวจสอบอาการของราชินีอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับการคลอด
เหล่าสาวใช้ต่างก็วิ่งวุ่น ไม่มีใครได้หยุดพักแม้แต่นาทีเดียว
ช่วงเวลาสุดท้ายแบบนี้—ลีออนไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก เขาจึงได้แต่นั่งเงียบ ๆ บนระเบียง กอดมูนไว้บนตัก ขณะที่โนอายืนอยู่ข้าง ๆ จับมือน้องสาวไว้แน่น
ทั้งสามคนนั่งรออย่างเงียบงัน… รอคอยปาฏิหาริย์แห่งชีวิตครั้งใหม่
แต่ไม่รู้เพราะอะไร ลีออนกลับรู้สึกกังวลใจอย่างไร้เหตุผล—เหมือนกับว่ากำลังจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น
โนอาดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความวิตกของพ่อ จึงพูดปลอบเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า—
“พ่อคะ แม่ต้องไม่เป็นไรแน่นอน หลังจากแม่คลอดแล้วแล้วพักฟื้นเสร็จ พวกเราจะได้ไปเที่ยวทะเลด้วยกันทั้งครอบครัวนะคะ”
ลูกสาวตัวน้อยที่แสนรู้ใจ… เป็นแบบนี้เสมอ
ลีออนปรับอารมณ์ตัวเอง พลางลูบหัวเธอเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มบาง ๆ
“อื้ม”
จากนั้น เขาหันหน้าไปมองขอบฟ้า—ยามเย็นอาบฟ้าเป็นสีแดงฉาน ราวกับไฟกำลังลุกไหม้อยู่บนท้องฟ้า
บท 158: คำสัญญา
บท 158: คำสัญญา คลิกอ่านที่นี่
ค่ำคืนย่างกรายเข้ามาอย่างเงียบงัน
ลีออนมองไปยังกลุ่มสาวใช้และหมอที่กำลังล้อมเตียงใหญ่ไว้แน่นหนา พยายามสอดสายตาแทรกผ่านช่องว่างเล็ก ๆ เพื่อมองให้เห็นใบหน้าของรอสไวส์
แต่พวกเธอรายล้อมราชินีไว้อย่างแน่นหนา จนเขาได้ยินเพียงเสียงครวญเบา ๆ จากฝั่งนั้นเท่านั้น
ปกติแล้ว การคลอดตั้งแต่เริ่มเจ็บครรภ์ไปจนถึงทารกคลอดออกมาสำเร็จจะใช้เวลาประมาณแปดถึงสิบชั่วโมง
ในช่วงเวลานี้—ความเจ็บปวดที่รอสไวส์ต้องเผชิญ เป็นสิ่งที่ลีออนในฐานะผู้ชายไม่มีทางเข้าใจได้เลย
เขาเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการดูแลก่อนคลอดมากมาย เข้าใจดีว่า ‘การให้กำเนิดชีวิต’ นั้นเจ็บปวดแค่ไหนสำหรับผู้หญิง…
ในขณะเดียวกัน ลีออนก็รับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงความรู้สึก ‘ไร้พลัง’ ของตัวเอง
เขาไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย—ทุกอย่างต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหมอและสาวใช้ที่เชี่ยวชาญ
เสียงครวญเบา ๆ ของรอสไวส์ที่เล็ดลอดออกมา ทำให้ลูกสาวทั้งสองคนเริ่มวิตกกังวลขึ้นมาทันที
“พ่อคะ… แม่เจ็บมากเลยใช่ไหมคะ?”
มูนเกาะแขนเสื้อของลีออนไว้แน่น ดวงตากลมโตเอ่อล้นด้วยน้ำตา เสียงสั่นเครือเล็กน้อย
“มูนไม่อยากได้น้องสาวแล้ว… มูนไม่อยากให้แม่เจ็บมากกว่านี้…”
ลีออนก้มหน้าลง จับมือเล็ก ๆ ของมูนที่เย็นเฉียบไว้ แล้วลูบหัวเธอเบา ๆ พลางเอ่ยคำปลอบใจ
“ไม่เป็นไรนะมูน… ไม่ต้องห่วง… แม่จะต้องปลอดภัยแน่นอน”
ในหัวของลีออนวุ่นวายสับสนจนไม่รู้จะพูดอะไรดี—เพราะ คำปลอบใจใด ๆ ก็ดูจะไร้พลังและจืดจาง เมื่อเทียบกับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า
โชคดีที่โนอาเป็นพี่สาวที่เข้มแข็งและเก่งมาก
เธอกอดน้องสาวไว้แน่น ปล่อยให้มูนซบลงบนไหล่ของเธอ ค่อย ๆ ลูบหลังเบา ๆ พร้อมกระซิบปลอบใจด้วยเสียงแผ่วเบา
ลีออนมองดูลูกสาวทั้งสองคน แล้วลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน
“โนอา มูน… ให้พ่อพาไปพักที่ห้องก่อนดีไหม?”
“เดี๋ยวพอคุณแม่คลอดเสร็จแล้ว พ่อจะรีบเรียกพวกหนูกลับมาเลย โอเคไหม?”
ตอนนี้ยังเป็นแค่ช่วงเริ่มต้นของการเจ็บครรภ์ แต่ไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้… รอสไวส์จะต้องเผชิญกับความเจ็บปวดที่รุนแรงกว่านี้อีกหลายเท่า
ลูก ๆ อยากอยู่ใกล้แม่ นั่นเป็นเรื่องที่น่ารักมาก…
แต่ลีออนไม่อยากให้พวกเธอต้องทนเห็น หรือผ่านช่วงเวลาอันแสนทรมานไปพร้อมกับเขา…
เมื่อได้ยินแบบนั้น โนอาก็ค่อย ๆ ดึงมือมูนเบา ๆ แล้วถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า—อยากกลับไปพักก่อนแล้วค่อยมาเยี่ยมคุณแม่ทีหลังไหม
มูนสูดน้ำมูกหนึ่งที ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ
“งั้นพ่อจะพาหนูกลับห้องนะ”
ลีออนลุกขึ้น แล้วจับมือของลูกทั้งสองคนไว้ข้างละข้าง พาพวกเธอเดินออกจากห้องของรอสไวส์อย่างเงียบ ๆ
เขาค่อย ๆ ปิดประตูอย่างแผ่วเบา แล้วจูงลูกสาวทั้งสองคนเดินไปยังห้องนอน
อากาศเย็น ๆ ในโถงทางเดินช่วยปลอบประสาทเขาได้เล็กน้อย
ลีออนหลับตาแล้วถอนหายใจหนัก ๆ ออกมาหนึ่งครั้ง
เหมือนจะได้พักหายใจสักหน่อยในความเงียบสงบที่แสนตึงเครียดนี้
แต่ยังไม่ทันได้ผ่อนคลายเต็มที่—เสียงกระแทกดังสนั่นก็ดังขึ้นจากหน้าต่างในโถงทางเดิน!
ยังไม่ทันที่ลีออนจะได้ตั้งตัว—ร่างหนึ่งที่ถูกไฟลุกท่วมก็ดิ่งลงมาตรงหน้าเขาอย่างกับกระสุนปืนใหญ่พุ่งทะลุกระจก!
เศษกระจกแตกกระจายวาบผ่านหน้าตา ความร้อนแผดเผาใบหน้าเขาทันที
ดวงตาสีดำของลีออนเบิกกว้าง ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเห็น
นี่มัน… โดนลอบโจมตี!?
สัญชาตญาณของนักล่ามังกรระดับแนวหน้าเข้าควบคุมร่างกายของเขาในเสี้ยววินาที
เมื่อเข้าใจสถานการณ์อย่างฉับพลัน ลีออนก็รีบควบคุมสติได้ทันที—ก่อนที่ลูกสาวทั้งสองจะได้ตั้งตัว เขาก็ยกมือขึ้นมาปิดตาของพวกเธอทันที
มูนที่ตกใจเสียงกระแทกดังสนั่น—รีบเกาะขากางเกงของพ่อแน่น
เธอพูดเสียงสั่นพร่า น้ำเสียงเต็มไปด้วยความวิตก
“พ่อ… เกิดอะไรขึ้นคะ?”
ลีออนประคองมือปิดตาลูกสาวอย่างเบาที่สุด—ไม่อยากกดแรงจนพวกเธอยิ่งตื่นกลัว
เขากวาดตามองศพที่ไหม้เกรียมตรงหน้าอย่างรวดเร็ว—หางและชุดเกราะยังมีควันลอยขึ้นบาง ๆ บ่งบอกชัดว่าเป็นทหารของเผ่ามังกรเงิน
ไม่ผิดแน่… วิหารของเผ่ามังกรเงินกำลังถูกโจมตี!
“แต่ทำไมต้องเป็นตอนนี้…” ลีออนพึมพำในลำคอ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าด่วน ๆ วิ่งตรงเข้ามาจากด้านหลัง
“องค์ชาย! องค์ชาย! ฝ่าบาทกับเจ้าหญิงปลอดภัยไหมเพคะ!?”
เป็นเสียงของ มิลาน ที่รีบวิ่งเข้ามาหาพวกเขาอย่างร้อนรน
เมื่อเธอเห็นศพของเพื่อนร่วมเผ่าที่นอนตายอยู่กลางโถง สีหน้าก็ซีดเผือดทันที—ความตกใจและสยองขวัญสะท้อนชัดในดวงตา
ลีออนขยับตัวไปยืนบัง โนอา และ มูน ไว้ ใช้ร่างกายของตนปิดบังภาพอันเลวร้ายจากสายตาของเด็กทั้งสอง
“อย่าหันกลับไปมอง… ไปกับพี่มิลาน กลับไปหาคุณแม่”
โนอาหายใจไม่สม่ำเสมอ—ด้วยความฉลาดของเธอ คงพอจะเดาได้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังรวบรวมความกล้าจับมือน้องสาวไว้แน่น แล้วพามูนเดินกลับไปยังห้องของรอสไวส์ภายใต้การคุ้มกันของมิลาน
เมื่อแน่ใจว่าลูกสาวทั้งสองปลอดภัยแล้ว—ลีออนจึงลุกขึ้น เดินไปยังหน้าต่างที่แตกละเอียด แล้วเงยหน้ามองออกไปไกล
แม้ว่าท้องฟ้าจะมืดลงไปนานกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ยังเห็นแสงสีแดงเรือง ๆ ลอยอยู่ไกล ๆ บนขอบฟ้า
เหมือนประกาศถึงภัยพิบัติที่กำลังจะมาเยือน
การตอบโต้ของวิหารมังกรเงินรวดเร็วอย่างไม่เคยมีมาก่อน—ทันทีที่ถูกโจมตี
ทหารระดับสูงทั้งหมดถูกรวบรวมมาที่รอบวิหาร
และมังกรเงินสองตัวยักษ์ก็บินโฉบอยู่เหนือศีรษะ พร้อมเข้าสู่สถานะเฝ้าระวังเต็มขั้น
เสียงฝีเท้าวิ่งอันชุลมุนดังแว่วจากปลายทางเดิน—ลีออนหันไปตามเสียง เห็นบรรดาทหารและสาวใช้กลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามาเพื่อจัดการกับศพบนพื้น
หนึ่งในสาวใช้รีบวิ่งตรงเข้าห้องของรอสไวส์
ลีออนก็ตามเข้าไปทันที
“หัวหน้าแม่บ้าน! มัน… มันคือการจู่โจมของเผ่ามังกรเพลิงชาดค่ะ!”
สาวใช้คนนั้นรายงานด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ บนร่างมีรอยไหม้หลายแห่ง—เป็นหลักฐานชัดเจนว่าเธอเพิ่งผ่านการต่อสู้อย่างดุเดือดมา
แอนนา ขมวดคิ้วแน่นทันที
“เผ่ามังกรเพลิงชาดงั้นเหรอ? คอนสแตนติน? ทำไมถึงมาโจมตีเผ่ามังกรเงินอย่างกะทันหันแบบนี้? แล้วที่สำคัญคือ…”
สายตาของเธอหันไปมองเตียงที่ ราชินีกำลังเจ็บท้องคลอดอยู่…
รอสไวส์นอนหลับตาแน่น ใบหน้าสวยซึ้งเต็มไปด้วยเหงื่อ ความเจ็บปวดฉายชัดในทุกอณูของสีหน้า
“แล้วทำไมต้องเป็นตอนนี้… ตอนที่ฝ่าบาทอ่อนแอที่สุด…”
แอนนาอดพึมพำในใจไม่ได้
แต่เวลานี้—ไม่มีเวลามาวิเคราะห์แรงจูงใจของคอนสแตนตินอีกแล้ว
ตลอดปีที่ผ่านมา มังกรเพลิงคลั่งตนนั้นบุกโจมตีเมืองและเขตแดนไม่ยั้งมือ
นี่อาจเป็นแค่การจู่โจมแบบสุ่ม… หรืออาจไม่ใช่เลยก็ได้
“เกิด…อะไรขึ้น… แอนนา…”
เสียงของรอสไวส์เปล่งออกมาแผ่วเบา เธอลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก
แอนนากัดริมฝีปากแน่น แล้วโน้มตัวลงตอบด้วยเสียงอ่อนโยน
“ฝ่าบาท… ตอนนี้เรากำลังถูกคอนสแตนตินลอบโจมตีเพคะ ข้าจะรีบจัดเตรียมกองกำลังป้องกันทุกอย่างให้เรียบร้อย”
“ได้โปรดทรงมีสมาธิกับการคลอดเถิดเพคะ… ทุกอย่างจะปลอดภัยแน่นอน”
“คอนสแตนติน… ไม่… ฉันต้อง… ต้องอยู่กับพวกเธอ—”
เสียงหอบหายใจของรอสไวส์ถี่จัด ดวงตาสีเงินสั่นระริกขณะพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง
แต่ หมอหญิงที่อยู่ข้าง ๆ รีบยื่นมือมาห้ามไว้ทันที
“ฝ่าบาท! ตอนนี้ห้ามขยับเด็ดขาดเพคะ มิฉะนั้นจะเป็นอันตรายต่อทั้งพระองค์และทารกในครรภ์!”
น้ำเสียงของหมอเด็ดขาดและจริงจัง
รอสไวส์ล้มตัวลงกลับไปบนเตียง—ความเจ็บปวดที่แล่นมาจากท้อง ทำให้เธอไม่อาจคิดอะไรได้อย่างเป็นระบบอีกต่อไป
แต่แล้วเธอก็พร่ำพึมพำเบา ๆ ออกมาโดยไม่รู้ตัว…
“ลูก… ลูกล่ะ… ลีออน… ลีออน…”
เหล่าสาวใช้และหมอที่อยู่รอบข้างรีบเปิดทางทันที…
ลีออนฝ่าฝูงคนเข้าไปถึงข้างเตียง จ้องมองรอสไวส์ที่ใบหน้าซีดเซียวด้วยแววตาหนักแน่น
เธอลืมตาแง้มเล็กน้อย สบตากับเขา—ริมฝีปากสั่นเทา เอ่ยเสียงแผ่วเบา
“ลีออน… ปกป้องลูกสาวของเรา…”
เธอรู้ดีว่าคอนสแตนตินแข็งแกร่งเพียงใด และสถานการณ์ตอนนี้คับขันขนาดไหน
แต่ในขณะเดียวกัน… เธอก็รู้ว่า
มีเพียงลีออนเท่านั้น ที่สามารถปกป้องลูกของเธอ
“เข้าใจแล้ว รอสไวส์… ผมสัญญา”
น้ำเสียงของเขาหนักแน่นเด็ดขาด
เขาไม่เคยให้สัญญากับรอสไวส์มาก่อน—นี่คือครั้งแรก
และเขาหวังว่า… จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย
“องค์ชายเพคะ” แอนนาเอ่ยขึ้นจากด้านหลัง
“เพื่อความปลอดภัย พวกเราวางแผนจะอพยพฝ่าบาทไปยังภูเขาหลัง ขอความกรุณาให้องค์ชายพาเจ้าหญิงทั้งสองเสด็จไปพร้อมกันด้วยเพคะ”
เนื่องจาก รอสไวส์ใกล้คลอดเต็มที จึงไม่สามารถออกคำสั่งใด ๆ ได้—หน้าที่ทั้งหมดจึงตกมาอยู่ที่แอนนาเพียงคนเดียว
โชคดีที่เธอคือคนที่สามารถรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ได้
หลังจากช่วงเวลาตื่นตระหนกสั้น ๆ แอนนาก็วางแผนฉับไว
เผ่ามังกรเพลิงชาด มีพลังรบที่จัดอยู่ในระดับแถวหน้าของหมู่มังกรทั้งหมด
ยิ่งตอนนี้ราชินีอยู่ในสภาพอ่อนแอ—หากเผชิญหน้าตรง ๆ โดยไม่มีผู้นำ คงไม่สามารถต้านได้นาน
ดังนั้น… ทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้คือ “อพยพชั่วคราว”
แต่สิ่งที่แอนนา ประเมินต่ำเกินไป คือ—
คอนสแตนตินไม่ได้โจมตีโดยบังเอิญ… แต่นี่คือการวางแผนไว้ล่วงหน้าแล้วต่างหาก!
ขณะที่กำลังเตรียมอพยพรอสไวส์—สาวใช้ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูก็รีบเข้ามารายงานด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
“หัวหน้าแม่บ้านเพคะ! ด้านหน้ากับด้านหลังวิหารถูกเผ่ามังกรเพลิงชาดล้อมไว้หมดแล้ว! แม้แต่ทางลับก็ถูกทำลายหมด! แล้วยัง—”
ตูม!!
ก่อนที่สาวใช้จะทันพูดจบ—เสียงระเบิดดังสนั่นจากด้านบนก็กระแทกหูทุกคนเข้าอย่างจัง!
ในวินาทีถัดมา เงาขนาดมหึมาก็ร่วงลงมาจากนอกหน้าต่าง พุ่งกระแทกเข้ากับลานหน้าวิหารมังกรเงินอย่างรุนแรง!
แรงกระแทกจากการตกของร่างมังกรทำให้พื้นสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว
ลีออนรีบตั้งหลัก พร้อมจับมือลูกสาวทั้งสองไว้แน่น
เขามองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นภาพอันน่าสะเทือนใจ—
มังกรเงินตัวหนึ่งถูกลูกไฟขนาดใหญ่ทะลุหน้าอก เลือดมังกรไหลทะลักเปรอะเปื้อนต้นไม้และพุ่มไม้ทั่วลานด้านหน้า
มังกรตนนั้น… คือหนึ่งในองครักษ์มังกรเงินที่เพิ่งโฉบเวียนเฝ้าเวหาอยู่เมื่อครู่
แต่บัดนี้—เขาถูกสังหารโดยเผ่ามังกรเพลิงชาด
การล่มสลายของมังกรองครักษ์ตัวนี้หมายความว่า—
ไม่เพียงแต่พื้นดินถูกล้อมไว้ทั้งหมด… แต่แม้แต่ ‘น่านฟ้า’ ของเผ่ามังกรเงินก็ถูกยึดไปเรียบร้อยแล้ว!
ความเร็วของการโจมตีครั้งนี้ช่างน่าตกตะลึง
ราวกับว่าไม่ต้องใช้กลยุทธ์ ไม่ต้องมีการสอดแนมหรือข่าวกรองใด ๆ ทั้งสิ้น
แอนนากำหมัดแน่น กัดริมฝีปากอย่างเจ็บใจ
“รวบรวมทหารฝีมือดีทั้งหมด—ปฏิญาณจะปกป้องวิหารนี้จนถึงที่สุด!”
เมื่อไม่มีทางหนีหรือถอย… ตัวเลือกเดียวที่เหลือคือ ‘สู้ตราบลมหายใจสุดท้าย’
เมื่อสิบนาทีก่อนหน้า วิหารมังกรเงินยังเต็มไปด้วยความวุ่นวายจากการคลอดของราชินี
สิบนาทีต่อมา—สงครามได้ระเบิดขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน… เหมือนฉากในละครที่ทั้งตลกร้ายและไร้เหตุผล
แอนนาไม่ปล่อยให้เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว—เธอเริ่มสั่งการรายละเอียดภารกิจการต่อสู้ทันที:
“ส่งคำสั่งให้เชอร์รี่รวบรวมหน่วยองครักษ์ชั้นยอดทั้งหมดภายใต้บังคับบัญชา—ห้ามออมมือ! สกัดการบุกรุกของเผ่ามังกรเพลิงแดงให้ถึงที่สุด!”
“จัดชุดสาวใช้ของข้าออกสี่ชุด พยายามฝ่าวงล้อมทางภูเขาหลัง! เป้าหมายหลักยังคงเป็น ‘อพยพราชินี’ ให้ปลอดภัย”
“ ระดมมังกรส่งสารทั้งหมดในวิหาร ส่งคำร้องขอความช่วยเหลือไปยังเผ่ามังกรใกล้เคียง …รวมถึงเผ่ามังกรแดงด้วย!”
“สุดท้าย—ข้าจะลงสนามด้วยตัวเอง เพื่อถ่วงเวลาให้ฝ่าบาทได้คลอดอย่างปลอดภัย!”
“ทุกคนเข้าใจชัดเจนแล้วใช่ไหม? ถ้าเข้าใจแล้ว… ลงมือได้!”
บท 159: ราชามังกรเพลิงชาดมาเยือน คลิกอ่านที่นี่
นี่คือการบุกโจมตีที่รวดเร็วราวสายฟ้า เมื่อเผ่ามังกรเพลิงชาดพุ่งทะลวงแนวป้องกันของอาณาเขตมังกรเงินด้วยความเร็วแสง มุ่งตรงสู่วิหารศักดิ์สิทธิ์
ซากศพที่ไหม้เกรียมซึ่งถูกโยนเข้าไปในวิหารศักดิ์สิทธิ์ของมังกรเงิน ทำหน้าที่เป็นระฆังเตือนภัยครั้งแรก บ่งบอกถึงการเริ่มต้นของสงคราม
ภายนอกวิหารศักดิ์สิทธิ์ในขณะนี้ มังกรยักษ์หลายร้อยตัวโบยบินวนเวียนอยู่กลางอากาศ
เปลวเพลิงของพวกมันส่องสว่างทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืน เสียงคำรามของมังกรดังก้องไม่ขาดสาย และซากศพมังกรจำนวนมากร่วงหล่นจากฟากฟ้า
สมรภูมิบนพื้นดินยิ่งโหดเหี้ยมยิ่งกว่า ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง กองทัพของมังกรเงินและเผ่ามังกรเพลิงทับทิมก็เข้าสู่ช่วงดุเดือดเลือดพล่าน
มนตร์ปะทะมนตร์ ดาบปะทะดาบ ทุกยุทธวิธีถูกงัดออกมาใช้อย่างถึงที่สุด
พื้นดินถูกย้อมเป็นสีแดงด้วยเลือดมังกร แขนขาถูกตัดขาด เนื้อหนังแหลกเหลว สายตาแลไปไกลเท่าไรก็มีแต่ซากศพนับไม่ถ้วน
ในขณะนั้น ท้องฟ้าราวกับถล่มลงมา ประหนึ่งเป็นจุดจบของโลก
สงครามระหว่างเผ่าพันธุ์มังกรได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของถ้อยคำใด ๆ ที่จะบรรยายถึงความโหดเหี้ยมได้
ห่างจากวิหารศักดิ์สิทธิ์ราวสิบกิโลเมตร แอนนา หัวหน้าสาวใช้ ได้นำทีมสาวใช้หน่วยพิเศษเข้าต่อสู้อย่างสิ้นหวัง
เชอร์ลี่ร่วมมือกับเธอ ต่อต้านการโจมตีหลายระลอกจากเผ่ามังกรเพลิงชาด
พวกเธอยังไม่ได้แปลงร่างเป็นมังกรเพื่อต่อสู้
การคงสภาพในร่างมนุษย์ช่วยให้ปล่อยเวทมนตร์ได้แม่นยำกว่า และยังอำนวยต่อการสั่งการและสังเกตการณ์สนามรบ ในขณะที่ร่างมังกรนั้นเคลื่อนไหวได้ช้ากว่าเล็กน้อย และอาจสร้างความเสียหายแก่ฝ่ายเดียวกันได้ง่ายในสมรภูมิที่ดุเดือดเช่นนี้
ดังนั้น ในการรบภาคพื้นดิน ร่างมนุษย์จึงมีความได้เปรียบอยู่บ้าง
อีกฟากหนึ่ง กองกำลังพิทักษ์ของมังกรเงินบางส่วนสามารถยึดอำนาจการควบคุมในท้องฟ้าไว้ได้ เผ่ามังกรเงินมีข้อได้เปรียบโดยธรรมชาติในเรื่องความเร็ว ถึงแม้จะไม่แข็งแกร่งเทียบเท่าเผ่ามังกรเพลิงทับทิมโดยรวม แต่พวกเขาก็ยังสามารถรักษาความได้เปรียบในการรบทางอากาศไว้ได้ด้วยความเร็วที่เหนือกว่า
การโจมตีครั้งที่ห้าของเผ่ามังกรเพลิงชาดถูกต้านทานไว้ได้ แอนนาและเชอร์ลี่พิงหลังกัน หอบหายใจเพื่อพักฟื้นแรงชั่วครู่
“แนวปิดล้อมด้านหลังภูเขาถูกเจาะทะลุแล้วหรือยัง?” เชอร์ลี่ถาม
“ยัง แต่พวกมันมาพร้อมแผน เตรียมซุ่มโจมตีไว้ล่วงหน้าพอสมควร แม้แต่ทางหนีฉุกเฉินก็ถูกทำลายหมดแล้ว” แอนนาตอบ พลางเช็ดเลือดจากใบหน้า
“แล้วกำลังเสริมล่ะ? ไม่มีเผ่ามังกรใกล้เคียงส่งทหารมาช่วยเลยหรือ?”
แอนนากัดริมฝีปากแล้วส่ายหน้า “พวกเขาต่างหวาดกลัวว่าจะมีปัญหากับคอนสแตนติน ไม่มีใครกล้าส่งทัพมาสนับสนุนเราเลย”
“พวกโง่! ถ้าเผ่ามังกรเงินล่มสลายจริง พวกเขาคิดหรือว่าคอนสแตนตินจะไว้ชีวิตพวกนั้น?” เชอร์ลี่สบถ
ขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนา ทหารนายหนึ่งก็วิ่งมารายงานว่า “หัวหน้าสาวใช้ ราชินีอิซาเบลลาแห่งเผ่ามังกรแดงตอบกลับมาแล้ว พวกเขาทราบสถานการณ์ที่นี่แล้ว แต่กำลังถูกกองกำลังส่วนหนึ่งของเผ่ามังกรเพลิงชาดตรึงไว้ ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามชั่วโมงกว่าจะเดินทางมาถึง”
“ถูกกองกำลังของเผ่ามังกรชาดทับทิมตรึงไว้…” ดวงตาของแอนนาไหวระริก ความคิดล่องลอยไปไกล
เธอระลึกได้ว่าไม่นานมานี้ ฝ่าบาทเคยเอ่ยว่าเผ่ามังกรเพลิงชาดมีแผนจะโจมตีเผ่ามังกรสายลม และกษัตริย์มังกรลมได้ร้องขอความช่วยเหลือจากพี่สาวของพระองค์ พระราชินีอิซาเบลลา
อย่างไรก็ตาม ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา กลับไม่มีสงครามใดปะทุขึ้น มีเพียงการปะทะและคุกคามขนาดเล็กเท่านั้น แต่ตอนนี้ เมื่อวิหารศักดิ์สิทธิ์ของมังกรเงินถูกโจมตี และกำลังเสริมจากเผ่ามังกรแดงล่าช้าเพราะถูกกองกำลังของเผ่ามังกรเพลิงชาดตรึงไว้ตั้งแต่ต้น…
ทั้งหมดนี้คือแผนของคอนสแตนติน!
เจตนาแต่ต้น เขาไม่ได้ตั้งใจจะโจมตีเผ่ามังกรลมหรือเผ่ามังกรแดงเลย เขาเพียงแสร้งทำเป็นโจมตีและคุกคามเผ่ามังกรสายลม เพื่อเบนความสนใจมังกรทางนั้น
จากนั้น เขาก็เปิดฉากโจมตีในวันที่รอสไวส์ให้กำเนิดบุตร ปล่อยให้วิหารศักดิ์สิทธิ์ของมังกรเงินต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวไร้ผู้นำ!
แม้แผนการณ์ทั้งหมดนี้จะรัดกุมอย่างน่าประหลาดใจ แต่อันนาก็อดสงสัยไม่ได้ว่า…คอนสแตนตินรู้ได้อย่างไรว่าวันนี้คือวันนั้น?
“หัวหน้าสาวใช้ พวกมันมาอีกแล้ว”
ก่อนที่อันนาจะได้คิดต่อ การโจมตีครั้งที่หกจากเผ่ามังกรเพลิงชาดก็เริ่มต้นขึ้น
เธอกัดฟันแน่น ยกดาบขึ้น ชี้ตรงไปยังศัตรูที่กำลังบุกเข้ามา “ปกป้องพระราชินีตราบวาระสุดท้าย!”
เหล่าทหารมังกรเงินส่งเสียงตะโกนคำราม พลางเข้าสู้กับเผ่ามังกรเพลิงทับทิมอีกครั้งอย่างดุเดือด
ขณะเดียวกัน ภายในวิหารศักดิ์สิทธิ์ รอสไวส์ยังคงอยู่ในห้วงของการให้กำเนิดบุตร
แม้เธอจะเคยผ่านความเจ็บปวดเช่นนี้มาก่อน แต่ความรู้สึกเหมือนร่างถูกฉีกออกก็ยังคงเกินจะทานทน
หลายครั้งเสียงระเบิดจากเวทมนตร์ดังขึ้นมาจากด้านหลังภูเขา เป็นสัญญาณว่าหน่วยที่แอนนาส่งออกไปกำลังพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อฝ่าวงล้อม หวังเปิดทางให้พระราชินี องค์รัชทายาท และเจ้าหญิงทั้งสองสามารถล่าถอยได้อย่างปลอดภัย
ไม่นานหลังจากนั้น ประตูก็เปิดออก สาวใช้คนหนึ่งรีบเร่งเข้ามา เธอกวาดตามองรอบห้องและพบว่าแอนนาไม่อยู่
เมื่อรอสไวส์ยังไม่สามารถออกคำสั่งได้ในขณะนั้น สาวใช้จึงหันไปหา…ลีออน
“องค์ชาย…พวกเรา…พวกเราสามารถเปิดทางหนีออกมาได้แล้วค่ะ กองกำลังของเผ่ามังกรเพลิงทับทิมที่ตรึงเส้นทางนั้นได้ถอนตัวไปหมดแล้ว ฝ่าบาทสามารถหนีออกทางนั้นได้ค่ะ”
เมื่อได้ยินข่าวนี้ เหล่าสาวใช้และหมอในห้องบรรทมต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
การฝ่าวงล้อมได้ หมายถึงพวกเขาสามารถอพยพราชินีออกไปได้อย่างปลอดภัย
ทว่า…ลีออนกลับไม่ได้สั่งให้นำตัวรอสไวส์ออกไปทันที
เขาขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วพึมพำเบา ๆ ว่า “มีพิรุธ…”
“มีอะไรหรือเพคะ องค์ชาย?” หมอคนหนึ่งเอ่ยถาม
ลีออนเดินไปที่ระเบียง ก่อนจะหันกลับมามองสาวใช้ที่เป็นผู้นำข่าวมา
“เมื่อกว่าชั่วโมงก่อน เผ่ามังกรเพลิงชาดยังปิดล้อมด้านหลังภูเขาแน่นหนา กระทั่งแมลงวันยังบินผ่านไม่ได้ แล้วตอนนี้กลับถอนกำลังจากเส้นทางนั้นเฉย ๆ มันไม่ชอบมาพากลเลย พวกมันถอนจากจุดไหนกันแน่?”
สาวใช้ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเม้มริมฝีปาก เดินเข้าไปใกล้ลีออนแล้วชี้ไปยังทางเดินเล็ก ๆ สายหนึ่งบนภูเขาด้านหลัง
ลีออนหรี่ตาลงเล็กน้อย “แน่ใจเหรอว่าเป็นตรงนั้น? กองกำลังของเผ่ามังกรเพลิงชาดถอนตัวจากเส้นทางนี้ทั้งหมดแล้ว?”
สาวใช้ลังเลอีกครั้ง แล้วจึงพยักหน้า “แน่ใจค่ะ”
ลีออนขมวดคิ้วแน่น จากนั้นค่อย ๆ ยกมือขึ้นแล้วดีดนิ้วหนึ่งที
ในวินาทีนั้น สายฟ้าสว่างจ้าแลบผ่านเหนือเส้นทางที่สาวใช้เพิ่งชี้ไป ใต้แสงฟ้านั้น มังกรสีแดงหลายตนพุ่งออกมาจากป่า พ่นเปลวเพลิงมังกรไปยังต้นทางของสายฟ้า ราวกับคิดว่านั่นคือกับดัก
แต่น่าเสียดาย…นั่นก็เวทที่ลีออนอวยพรวันเกิดรอสไว
หากพวกสาวใช้พารอสไวส์หลบหนีไปตามเส้นทางนั้นเมื่อครู่จริง พวกเธอคงตกอยู่ในกับดักของเหล่ามังกรแดงเพลิงไปแล้ว
ลีออนหันศีรษะช้า ๆ ไปมองสาวใช้ด้วยสายตาเย็นเยียบ “เวลารบ ต้องใช้สมองให้มากกว่านี้”
สาวใช้คนนั้นตกใจสุดขีด รีบคุกเข่าลงครึ่งตัว “นายท่าน…เป็นความประมาทของดิฉันเอง…ดิฉันสมควรตายเพคะ…”
ลีออนไม่สนใจเธออีก หันหลังเดินตรงไปหาบุตรสาวทั้งสองของตน
สาวใช้และหมอคนอื่น ๆ พากันเงียบกริบ มองหน้ากันไปมา ไม่รู้จะพูดอะไร หากไม่ได้คำเตือนอย่างรอบคอบขององค์ชายเมื่อครู่นี้ พวกเขาอาจก่อความผิดพลาดร้ายแรงไปแล้วก็เป็นได้
หลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว ทุกคนก็กลับไปดูแลรอสไวส์ที่ยังอยู่ในช่วงคลอด ขณะที่ลีออนไม่เอ่ยอะไรเพิ่มเติม
แม้ลีออนจะไม่เข้าใจรายละเอียดของแผนยุทธการของเผ่ามังกรเงิน และไม่เหมาะสมที่จะออกคำสั่งเชิงกลยุทธ์ใด ๆ แต่เขาก็ยังสามารถมองออกถึงกลอุบายที่แฝงอยู่ในการศึกได้
จักรวรรดิ์เคยยกย่องเขาว่าเป็นนักล่ามังกรที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่ใช่เพียงเพราะจำนวนมังกรที่เขาฆ่าได้เท่านั้น แต่เพราะความสามารถในการบัญชาการ การวางแผน และการจัดวางกำลังพล ลีออนเชี่ยวชาญในทุกด้านเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม ในเมื่อแอนนาได้จัดเตรียมแผนรบไว้เรียบร้อยแล้ว เขาจึงไม่ควรแทรกแซงการบัญชาการในเวลานี้ เพราะอาจทำให้จังหวะของกองทัพมังกรเงินรวนไปได้ และที่สำคัญ แอนนาเองก็มีความสามารถไม่น้อย
ในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้ที่ศัตรูบุกอย่างไม่คาดคิดและไร้ผู้นำ แอนนาถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเท่าที่พวกเขามี ลีออนยืนกอดอก มองไปยังสมรภูมิที่ดุเดือดเบื้องหน้า พลางเห็นว่าเผ่ามังกรเงินเริ่มได้เปรียบขึ้นทีละน้อย
บนสนามรบ เชอร์ลี่แทงดาบทะลุหน้าอกของมังกรเพลิงชาดตนหนึ่ง แล้วเหวี่ยงร่างของมันออกไป ก่อนจะหันไปมองยังประตูวิหารศักดิ์สิทธิ์ พลางตระหนักว่าพวกเธอสามารถรุกคืบมาได้ไกลกว่าเจ็ดกิโลเมตรนับตั้งแต่สองชั่วโมงก่อน
ยอดเยี่ยม วงล้อมของเผ่ามังกรเพลิงชาดกำลังค่อย ๆ แตกออก บางทีพวกเธออาจต้านทานเอาไว้ได้จริง ๆ
แต่ในขณะที่ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดี บางสิ่งที่ไม่คาดฝันก็กำลังจะเกิดขึ้น ใบหน้าของเชอร์ลี่ยังไม่ทันแสดงรอยยิ้มแห่งชัยชนะชั่วคราว เธอก็สังเกตเห็นเงาบนพื้นเริ่มเข้มและหนาขึ้นเรื่อย ๆ
ในชั่วขณะนั้น ราวกับเธอเข้าใจอะไรบางอย่าง และความหวาดกลัวก็ระเบิดขึ้นในหัวใจ ร่างทั้งร่างสั่นระริกเหมือนเครื่องจักรขึ้นสนิม เธอค่อย ๆ หันหลังกลับอย่างช้า ๆ
ในชั่วขณะนั้น ราวกับเธอเข้าใจอะไรบางอย่าง และความหวาดกลัวก็ระเบิดขึ้นในหัวใจ ร่างทั้งร่างสั่นระริกเหมือนเครื่องจักรขึ้นสนิม เธอค่อย ๆ หันหลังกลับอย่างช้า ๆ
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร ท้องฟ้าทั้งผืนได้ถูกบดบังด้วยปีกของมังกรยักษ์คู่หนึ่ง
ทันใดนั้น ลมกระโชกแรงพัดถาโถมเข้ามา บีบให้เชอร์ลี่ต้องโน้มตัวลง
ลมหายใจของมังกรลึกและหนักแน่นพัดกวาดผ่านทั่วสนามรบ และสีแดงชาดของปีกกับหางยาวของมันได้เผยให้เห็นตัวตนของมังกรยักษ์ตนนี้
แรงกดดันรุนแรงที่แทรกซึมถึงกระดูกและวิญญาณ ทำให้เหล่ามังกรทุกตนในสนามถึงกับหายใจติดขัด
เคร้ง…
ดาบยาวของเชอร์ลี่ร่วงลงพื้น เธอเงยหน้าขึ้นอย่างงุนงง ดวงตาสีเงินของมังกรจ้องมองไปยังราชามังกรผู้สง่างามและทรงอำนาจ ขณะที่ม่านตาค่อย ๆ เลือนลางลง
“คอนสแตนติน…”
ราชามังกรเพลิงชาด คอนสแตนติน ปรากฏตัวบนสนามรบด้วยตนเอง
ความหวาดกลัวแผ่ซ่านเข้าสู่หัวใจของเชอร์ลี่ในทันที เธอแทบไม่ทันได้ตอบสนอง จนกระทั่งกลุ่มเปลวเพลิงมังกรอันดุเดือดเกือบจะเผาผลาญเธอจนมอดไหม้
โชคดีที่แอนนาตอบสนองได้รวดเร็ว คว้าคอเสื้อของเธอจากด้านหลังแล้วกระชากออกมาได้ทันก่อนถึงขอบเหวแห่งความตาย
เชอร์ลี่ทรุดตัวลงกับพื้น ความเจ็บปวดช่วยให้เธอได้สติกลับคืนมา
“รายงานกลับไป คอนสแตนตินปรากฏตัวแล้ว ระดมกำลังทั้งหมดเร่งฝ่าวงล้อมทางภูเขาด้านหลังโดยด่วน” แอนนาออกคำสั่ง
คำสั่งนี้หมายความว่าสมรภูมิที่นี่กำลังจะจบลงในไม่ช้า เมื่อคอนสแตนตินปรากฏตัว ช่องว่างของพลังระหว่างราชามังกรกับมังกรชั้นยอดอย่างแอนนา ช่างลึกและกว้างดุจเหวที่ไม่อาจข้ามผ่านได้
ดังนั้น เมื่อความพ่ายแพ้ในแนวหน้ากลายเป็นเพียงเรื่องของเวลา พวกเขาจึงต้องทุ่มสุดกำลังเพื่อฝ่าวงล้อมทางภูเขาด้านหลัง
พวกเขาอาจไม่สามารถรักษาวิหารศักดิ์สิทธิ์ของมังกรเงินไว้ได้ แต่ต้องรักษาชีวิตของพระราชินีไว้ให้ได้อย่างน้อยที่สุด
แอนนามองแผ่นหลังของเชอร์ลี่ พลางรู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อย
“พระองค์พูดถูกแล้วเพคะ พระราชินี… ชีวิตของมังกรมันยาวนานเกินไป ตอนนี้ ข้าก็ชอบความงามที่แสนสั้นดั่งพระองค์แล้ว” เธอกล่าวพลางหันกลับไปเผชิญหน้ากับคอนสแตนติน แผ่ปีกกางออกด้านหลัง เปลี่ยนร่างเป็นมังกรเต็มตัว
อย่างไรก็ตาม แม้จะอยู่ในร่างมังกร แอนนาก็ยังมีขนาดเพียงหนึ่งในสี่ของราชามังกรคอนสแตนตินเท่านั้น
ต่อหน้าราชามังกร แอนนาไม่ต่างจากตั๊กแตนตำข้าวที่พยายามหยุดรถยนต์ แต่เธอก็ไม่มีวันถอย เพราะเหล่าสาวใช้ทุกคนได้สาบานไว้แล้วว่าจะปกป้องพระราชินีด้วยชีวิตของพวกตน
แอนนากระพือปีกอย่างแรง พุ่งเข้าหาศัตรูผู้สูงใหญ่ดั่งขุนเขา ราวกับผีเสื้อกลางคืนที่บินเข้าสู่เปลวไฟ แม้รู้ว่าหนทางเบื้องหน้าคือหายนะ แต่ก็ยังคงพุ่งไปข้างหน้า
เปลวเพลิงมังกรเริ่มรวมตัวในปากของเธอ ก่อนจะระเบิดออกอย่างรุนแรง ทว่าในดวงตาสีแดงชาดของคอนสแตนตินกลับมีเพียงแววเย้ยหยัน เขาแค่กระพือปีกเบา ๆ ก็สามารถสลายเปลวเพลิงมังกรที่แอนนาเปล่งออกมาสุดกำลังได้ในพริบตา
แม้แอนนาจะรู้สึกถึงแรงปะทะจากคลื่นกระแทก แต่เธอก็ปรับท่าทางกลางอากาศได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะโจมตีใส่คอนสแตนตินอีกครั้ง ลูกไฟหลายลูกพุ่งเข้าใส่ร่างมังกรขนาดมหึมานั้น แต่กลับไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้บนเกล็ดของเขาเลยแม้แต่น้อย
ร่างยักษ์ของคอนสแตนตินเคลื่อนไปอย่างช้า ๆ มุ่งหน้าสู่วิหารศักดิ์สิทธิ์ โดยไม่สนใจการโจมตีของแอนนาและเหล่าทหารมังกรเงินเลย
เมื่อเห็นว่าเวทมนตร์ไม่มีผลใด ๆ แอนนาก็คำรามลั่น ก่อนจะลอยตัวมาขวางหน้าราชามังกรเพลิงชาด
เธอกระพือปีกเต็มแรง ใช้ร่างของตัวเองเป็นอาวุธ โดยไม่สนผลลัพธ์ที่จะตามมา แล้วพุ่งชนใส่คอนสแตนตินอย่างจัง ทว่ากับคอนสแตนตินแล้ว การโจมตีเช่นนี้ก็ไม่ต่างจากแมงเม่าที่พุ่งชนต้นไม้ใหญ่
เขายกกรงเล็บมังกรอันแหลมคมและใหญ่โตขึ้น แล้วกดแอนนาแน่นลงกับพื้นอย่างง่ายดาย กรงเล็บของเขาทิ่มทะลุปีกของแอนนา เลือดไหลพรั่งพรูออกมาไม่หยุด
แม้จะถูกตรึงแน่นอยู่กับพื้น แอนนาก็ยังพยายามจะโต้กลับ ดิ้นรนพลางพ่นเปลวเพลิงมังกรใส่คอนสแตนตินอย่างต่อเนื่อง
แต่ทุกอย่างกลับไร้ผลโดยสิ้นเชิง
เมื่อสัมผัสได้ถึงช่องว่างของพลังที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิงระหว่างตนกับคอนสแตนติน แอนนาก็ถึงกับตะลึงงัน
เธอแทบไม่อาจเชื่อได้เลยว่ามังกรตนหนึ่งจะทรงพลังได้ถึงเพียงนี้
แต่ก็เพราะราชามังกรที่มีพลังอำนาจน่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้เท่านั้น จึงจะกล้าบุกโจมตีเผ่ามังกรอื่นอย่างไม่เกรงกลัวใด ๆ ใช่หรือไม่? ความสิ้นหวังค่อย ๆ กลืนกินหัวใจของแอนนา และทั้งกองทัพมังกรเงิน ตั้งแต่คอนสแตนตินปรากฏตัวบนสนามรบ ทุกสิ่งก็ราวกับถูกลิขิตไว้แล้ว
ภายในวิหารศักดิ์สิทธิ์ ความเงียบงันปกคลุมไปทั่ว บรรยากาศตกต่ำถึงขีดสุด มูนกลั้นน้ำตาไว้ ซุกใบหน้ากลมเล็กเข้ากับอ้อมอกของพี่สาว กำเสื้อของเธอแน่น
มือของโนอาสั่นระริก ภาพหายนะตรงหน้านั้นเกินกว่าที่เด็กคนหนึ่งจะรับไหว แต่เธอก็ยังคงกอดน้องสาวไว้แน่น พยายามปลอบโยนเธอ
มีลานและเหล่าสาวใช้มองแอนนาที่ถูกเหยียบย่ำจนยับเยิน และราชามังกรเพลิงชาดผู้ไร้ผู้ต้าน อย่างเงียบงัน ดูเหมือนว่า…พวกเขาไม่จำเป็นต้องดิ้นรนอีกต่อไปแล้ว
รอสไวส์ลืมตาขึ้นท่ามกลางความเจ็บปวด รับรู้ได้ถึงพลังอันมหาศาลที่ปรากฏขึ้นบนสนามรบ กลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ของราชามังกร เธอรู้ทันทีว่าคอนสแตนตินมาถึงแล้ว วีรบุรุษมังกรผู้ขยายอาณาเขตให้เผ่ามังกรเมื่อพันปีก่อน ผู้มีพลังโดดเด่นเหนือราชามังกรทั้งปวง
“ฝ่าบาท…” มีลานก้มหน้าลง ไม่อาจสบตากับรอสไวส์ได้ “หม่อมฉันขออภัย แต่เกรงว่า…พวกเราอาจจะแพ้ไปแล้ว ไม่มีใครฆ่าราชามังกรที่แข็งแกร่งในระดับคอนสแตนตินได้ ไม่มีใครเลย…”
ไม่มีใครคัดค้านคำพูดของมีลาน เพราะมันคือความจริงที่ทุกคนยอมรับ เพียงแค่มีลานกล้าพูดออกมาเท่านั้น
“ฆ่า…ราชามังกร…”
รอสไวส์พึมพำคำสี่คำนี้ออกมา พลางกำผ้าปูที่นอนแน่น ขณะที่ทนรับความเจ็บปวดรุนแรงในช่องท้อง “ฆ่าราชามังกร…มันไม่ใช่ความถนัดของใครบางคนหรือ…”
“ฝ่าบาทตรัสว่าอะไรนะเพคะ?” หมอที่อยู่ใกล้ ๆ ฟังไม่ชัดจึงถามขึ้น
รอสไวส์หลับตาลง รอยยิ้มอ่อนล้าและสิ้นหวังปรากฏบนใบหน้าซีดเซียวของเธอ ในเวลานี้ ไม่มีทางเลือกอื่นเหลืออีกแล้ว
เธอเอ่ยชื่อของชายผู้นั้นเบา ๆ “ลีออน…”
เขาตอบรับ ก่อนจะเดินไปยังเตียงของรอสไวส์ สีหน้ายังคงเคร่งขรึมขณะมองเธอ
“ฉันหมดหนทางแล้ว…ลีออน เหลือเพียงตัวเลือกเดียวเท่านั้น เธอมองชายผู้เคยเป็นศัตรูด้วยดวงตาสีเงินที่เต็มไปด้วยความหมดหนทาง
ลีออนไม่พูดอะไร แต่รอสไวส์สามารถเห็นคำตอบในแววตาของเขาได้
เธอหลับตาลง น้ำตาหนึ่งหยดไหลลงบนแก้มเปียกซึมหมอน “นายรู้อยู่แล้วว่าของอยู่ตรงไหน ส่วนกุญแจอยู่ในลิ้นชักที่สอง…”
ลีออนพยักหน้า เปิดลิ้นชักแล้วหยิบกุญแจออกมา
จากนั้นเขาเดินฝ่ากลุ่มคนไปหาน้องสาวทั้งสอง โนอาและมูน ก่อนจะย่อตัวลงครึ่งหนึ่ง
เขากุมมือเล็กเย็นเฉียบของมูนไว้แน่น แล้วจึงหันไปมองโนอา
พ่อกับลูกสาวสบตากันแน่นิ่ง ราวกับมีถ้อยคำมากมายที่อยากเอ่ยออกมา
แต่สุดท้าย ลีออนก็พูดเพียงว่า “ดูแลแม่กับน้องให้ดี ลูกทำได้แน่”
“พ่อคะ…พ่อ…จะกลับมาใช่ไหม?” โนอาถามเสียงสั่น
“อืม พ่อจะกลับมา เราเคยสัญญากันไว้ว่าจะไปทะเลด้วยกัน จำได้ไหม?” เขาลูบศีรษะของโนอาเบา ๆ ก่อนจะไม่พูดอะไรอีก ยืนขึ้นแล้วเดินไปยังประตู
“ลีออน!… ลีออน…” เสียงแผ่วเบาของรอสไวส์ดังขึ้น
ลีออนหยุดฝีเท้าที่หน้าประตู หันกลับมาเล็กน้อย แล้วตอบด้วยเสียงทุ้มหนักแน่น “สบายใจได้ ที่เหลือปล่อยเป็นหน้าที่ผมเอง”
เมื่อพูดจบ เขาก็ไม่ลังเลอีก เปิดประตูแล้วรีบก้าวออกจากวิหารศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว
เขามาถึงห้องลับของรอสไวส์ ใช้กุญแจไขประตู ก่อนจะเดินลงบันไดไปยังส่วนที่ลึกที่สุด
ที่นั่น เขาพบหีบไม้ใบหนึ่ง เมื่อเปิดออกก็พบกับชุดเกราะสีดำอยู่ภายใน ราวกับได้พบสหายเก่าที่จากกันไป ลีออนยื่นมือออกไป ปลายนิ้วลูบแผ่นอกของเกราะสีดำทองอย่างแผ่วเบา
“สหายเก่าเอ๋ย…ถึงเวลาเริงระบำในสนามรบด้วยกันแล้ว”
บท 160: สิ่งที่เรียกความแข็งแกร่งเหนือผู้ใด คลิกอ่านที่นี่
สถานการณ์ที่ราชามังกรปรากฏตัวในสนามรบด้วยตนเองนั้นหาได้ยากยิ่ง โดยทั่วไปแล้วจะมีเพียงสองกรณีเท่านั้นที่ทำให้ราชามังกรต้องลงสนามด้วยตนเอง: หนึ่ง คือสงครามนี้จำเป็นต้องชนะให้ได้ และสอง คือมีพลังระดับราชามังกรของฝ่ายตรงข้ามปรากฏขึ้นแล้ว
แอนนาไม่เข้าใจว่าเหตุใดเผ่ามังกรเพลิงชาดจึงต้องการยึดครองดินแดนของเผ่ามังกรเงิน พวกเขาไม่มีความบาดหมางกันเลยตลอดหลายพันปีที่ผ่านมา แล้วเหตุใดจึงจู่โจมขึ้นมาอย่างกะทันหัน?
แอนนาซึ่งถูกกรงเล็บของคอนสแตนตินตรึงไว้กับพื้น เลือดมังกรในกายเกือบจะไหลหมดสิ้น เหลือเพียงลมหายใจรวยริน เธอไม่รู้เลยว่าพระราชินีทรงอพยพออกไปได้สำเร็จหรือไม่ เจ้าหญิงทั้งสองปลอดภัยหรือเปล่า หรือว่าเจ้าชาย ผู้ซึ่งดูเหมือนไม่มีพลังต่อสู้ จะสามารถปกป้องภรรยาและลูกได้หรือไม่
ร่างกายของแอนนาใกล้จะถึงขีดจำกัดเต็มที เธอรู้ดีว่าตนไม่อาจทานทนต่อการโจมตีครั้งต่อไปของคอนสแตนตินได้อีกแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังพยายามจะต่อต้าน เปลวเพลิงมังกรที่อ่อนแรงพ่นออกจากปากของเธออย่างไร้เรี่ยวแรง ทว่าคอนสแตนตินก็ไม่แม้แต่จะหลบเลี่ยงหรือป้องกัน เพราะการโจมตีที่อ่อนแอเช่นนี้ไม่อาจทำให้เขาใส่ใจได้เลย
คอนสแตนตินจ้องมองลงมาที่แอนนาด้วยแววตาเย้ยหยันและดูแคลน ดวงตามังกรสีแดงชาดของเขาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม เปลวเพลิงมังกรความเข้มข้นสูงค่อย ๆ ก่อตัวในปากของเขา เตรียมจะยุติความเจ็บปวดของแอนนาเสียที
ในที่สุด แอนนาก็หยุดดิ้นรน หลับตาลงช้า ๆ มังกรเงินนับร้อยพุ่งเข้าใส่คอนสแตนตินโดยไม่หวั่นเกรงใด ๆ แต่เมื่อแอนนา ซึ่งเป็นผู้นำชั่วคราว ถูกสยบลง และกองทัพไร้ผู้นำ การบุกของพวกเขาก็ไม่ต่างจากการวิ่งเข้าหาความตาย
ขณะที่ความร้อนแผ่ซ่านกลืนกินทุกสิ่งไปทีละน้อย ท่ามกลางเปลวเพลิงสีแดงฉาน แอนนาราวกับเห็นยมทูตตัวจริงปรากฏต่อหน้า แต่แล้ว เสียงร้องแหลมของนกก็พลันดังขึ้นทะลุเข้าไปในโสตประสาทของเธออย่างฉับพลัน
ในชั่วขณะถัดมา เปลวเพลิงมังกรที่กำลังจะเผาผลาญแอนนากลับถูกสลายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว เธอลืมตาขึ้นอย่างงุนงง ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อมองเห็นปฏิกิริยาของคอนสแตนติน เธอก็อดคิดไม่ได้ว่า…หรือว่าจะเป็นพระราชินีเสด็จมาช่วย?
ไม่สิ เป็นไปไม่ได้ พระราชินียังอยู่ในช่วงคลอด จะมาอยู่ที่นี่ในสถานการณ์แบบนี้ไม่ได้แน่นอน แต่ถ้าไม่ใช่พระราชินี แล้วจะมีใครอีกที่สามารถสลายเปลวเพลิงมังกรของคอนสแตนตินได้อย่างง่ายดายเช่นนี้?
คอนสแตนตินค่อย ๆ เงยหัวมังกรของตนขึ้น เผยให้เห็นร่องลึกที่ถูกผ่าออกด้วยสายฟ้าเบื้องหน้า และตามแนวร่องนั้นมีซากศพของมังกรเพลิงชาดนอนตายเกลื่อน
ที่ปลายอีกด้านของร่องลึกนั้น ด้านหน้าประตูวิหารมังกรเงิน มีร่างหนึ่งยืนอยู่ ร่างสูงเพรียวในชุดเกราะสีดำเงิน รายล้อมด้วยประกายสายฟ้าที่ลุกวาบ ไม่มีข้อกังขาเลยว่า บุคคลผู้นี้คือผู้ที่สังหารมังกรเพลิงชาดไปหลายตนในพริบตาเดียว และเป็นผู้ที่หยุดการโจมตีสุดท้ายของคอนสแตนตินที่มุ่งสังหารแอนนา
คอนสแตนตินหรี่ตามังกรลงเล็กน้อย “งั้นเจ้าก็คือเป้าหมายที่ ‘พวกเขา’ พูดถึงสินะ ดูท่าจะ…น่ากลัวไม่เบาเลย”
ลีออนก้าวเดินไปข้างหน้าช้า ๆ อย่างสงบ มุ่งหน้าเข้าสู่สนามรบตรงหน้า สีเงินที่เคลือบบนชุดเกราะดำทองของเขาค่อย ๆ แห้งลง นี่คือการปลอมตัวอย่างง่ายที่เขาเตรียมไว้ก่อนจะมาสนามรบ เพื่อซ่อนตัวตนมนุษย์ของตนเอง
สีที่ใช้ก็หาได้ง่าย เขาเคยใช้สีพวกนี้มากมายตอนทำของเล่นให้โนอาและมูน ในช่วงสงครามที่ผ่านมา มังกรส่วนใหญ่จำได้เพียงแค่ชุดเกราะสีดำชุดนี้เท่านั้น
แม้ว่าการปลอมตัวในครั้งนี้จะดูหยาบ ๆ ไปบ้าง แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เป็นเวลากลางคืน การจะมองเห็นรายละเอียดจากระยะไกลก็เป็นเรื่องยาก
การโจมตีเมื่อครู่ยังได้ใช้พลังเวทบางส่วนที่สะสมไว้ในรอยสักมังกรบนชุดเกราะของลีออนไปแล้ว เขายกมือขึ้น รู้สึกถึงพลังเวทที่ยังหลงเหลืออยู่ในตอนนี้
จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองคอนสแตนตินผู้ยิ่งใหญ่เบื้องหน้า หลังจากคำนวณอย่างรวดเร็ว เขาก็คิดในใจว่า “ถ้าจะเก็บเจ้าหมอนี่ก่อนที่พลังเวทจะหมด ก็คงไม่ใช่ปัญหา”
เดิมที ตอนที่ลีออนเห็นว่าเผ่ามังกรเงินเริ่มเป็นฝ่ายได้เปรียบ เขาก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องลงมือเอง เพียงอยู่ข้างรอสไวส์และลูกสาวทั้งสอง ทำหน้าที่เป็นแนวป้องกันสุดท้ายก็เพียงพอแล้ว
แต่กระทั่งเมื่อคอนสแตนตินปรากฏตัวบนสนามรบ ใช้พลังมหาศาลแย่งความได้เปรียบกลับคืนมา ลีออนถึงได้ตระหนักว่ามังกรมเพศผู้ผู้นี้คลั่งชัยชนะในสงครามครั้งนี้เพียงใด
ถ้าอย่างนั้น…ในเมื่อคอนสแตนตินอยากชนะถึงขนาดนั้น ลีออนก็จะไม่มีทางยอมให้เขาได้มันไป การเผชิญหน้ากับมังกรตัวต่อตัวนั่นแหละคือความถนัดของเขา
เขากวาดตามองไปทั่วสนามรบที่เต็มไปด้วยซากศพ ประเมินจำนวนของมังกรเพลิงชาด แล้วก็คิดในใจอย่างลับ ๆ ว่า โชคดีที่เขายังไม่ได้ลงมือก่อนหน้านี้
ไม่อย่างนั้น เขาอาจเสียพลังเวทไปโดยเปล่าประโยชน์ แล้วตอนนี้ก็คงไม่มั่นใจพอที่จะต่อกรกับคอนสแตนติน ราชามังกรได้
ในสถานการณ์ที่มานายังมีจำกัด หากใช้สกิลทั้งหมดผลาญไปกับการเคลียร์ลูกกระจ๊อกหมด แล้วจะเหลืออะไรไว้สู้กับบอสล่ะ? เหลวไหลสิ้น!
เมื่อลีออนก้าวเข้าสู่สนามรบ เผ่ามังกรเพลิงชาดก็เริ่มตอบสนอง มังกรแดงหลายตนพุ่งเข้าใส่เขา ใช้ร่างของตนสร้างเป็น “กรง” ปิดล้อมลีออนไว้อย่างแน่นหนา จากนั้นจึงเริ่มรวมเปลวเพลิงมังกร หวังจะเผาลีออนทั้งเป็นภายในกรงเพลิงนี้
คอนสแตนตินเองก็อดประหลาดใจในความกล้าของมนุษย์ผู้นั้นไม่ได้ เขากล้าเดินตรงเข้ามาเช่นนี้ได้อย่างไร? หรือว่าเป็นคนบ้า? แต่ความจริงก็พิสูจน์ให้เห็นว่า คอนสแตนตินระวังตัวมากเกินไป
ภายในกรงมังกรเบื้องหน้า สายฟ้าหลายสายแลบผ่านช่องว่างออกมา ทันใดนั้น เวทสายฟ้าอันทรงพลังก็ระเบิดออก ส่งมังกรเพลิงชาดที่ล้อมอยู่ปลิวกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง
ขณะเดียวกัน ลีออนยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม รายล้อมไปด้วยสายฟ้าร้อนแรงที่เปล่งประกาย ในนาทีนั้น ความกระหายเลือดมังกรที่หลับใหลในตัวเขาก็ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง
แรงกดดันมหาศาลแผ่กระจายออกจากร่างของเขา และในสายตาของเหล่ามังกร ร่างเล็ก ๆ นั้นกลับดูราวกับเทพอัสนีที่จุติลงมา
ไม่เพียงแต่มังกรเพลิงชาดจะรู้สึกหวาดกลัว แม้แต่เหล่าทหารมังกรเงินเองก็ยังรู้สึกขนลุกต่อพันธมิตรนิรนามที่พวกเขาไม่เคยพบหน้ามาก่อนผู้นี้
“แค่ร่างมนุษย์เพรียวบาง แต่กลับปล่อยเวทมนตร์รุนแรงขนาดนี้ได้โดยไม่ต้องแปลงร่างเป็นมังกร…เขาเป็นราชามังกรที่เผ่ามังกรเงินเพิ่งฝึกฝนขึ้นมาหรือเปล่า?”
“แล้วแรงกดดันที่แผ่ออกมานั่น…รู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาดเลยแฮะ”
“ใครกันแน่ที่อยู่ในชุดเกราะนั่น?”
เหล่านักรบมังกรเพลิงชาดอดไม่ได้ที่จะกระซิบถกกัน
แต่ด้วยเสียงคำรามของคอนสแตนติน ความตื่นตะลึงและความตระหนกทั้งหมดก็ถูกกดทับไว้ในทันที “ไม่ว่ามันจะเป็นใคร…ฆ่ามันซะ!”
ตามคำสั่งของคอนสแตนติน มังกรเพลิงชาดนับสิบก็พุ่งเข้าโจมตีลีออนอีกครั้ง เสียงร้องแหลมของนกดังก้องขึ้นอีกครา
ลีออนกางแขนออกเล็กน้อย พร้อมกับรวมพลังเวทสายฟ้า “พันปักษา” ไว้ที่มือทั้งสองข้าง เขาค่อย ๆ ลดลำตัวลง ก่อนจะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเรื่อย ๆ
ทั้งสองฝ่ายพุ่งเข้าหากันด้วยความเร็วดุจสายฟ้า เข้าปะทะกันอย่างดุเดือดในระยะประชิด ลีออนราวกับคมดาบที่หลอมจากสายฟ้า ผ่ากลุ่มมังกรเพลิงชาดกระจุยกระจาย
เลือดสาดกระเซ็น สายฟ้าแลบวาบ ท่ามกลางเสียงร้องของ “พันปักษา” ยังแว่วแทรกด้วยเสียงคำรามและเสียงกรีดร้องจากเผ่ามังกรเพลิงชาด ความเจ็บปวดจากสายฟ้านั้นเกินกว่าดาบใดจะเทียบได้
ร่างในชุดเกราะสีเงินดำเคลื่อนผ่านสนามรบดั่งพายุแห่งความตาย ทุกย่างก้าวที่เขาเหยียบย่ำ ล้วนบดขยี้กระดูกและสาดกระเซ็นเลือดไปทั่ว มันคือการสังหารหมู่ฝ่ายเดียวอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะร่างมนุษย์หรือร่างมังกร ก็ล้วนไร้พลังทัดทานต่อสายฟ้าที่ไม่มีใครต้านทานได้
แต่นี่ยังไม่ใช่พลังเต็มที่ของลีออนเลย เขาเพียงต้องการจัดการคอนสแตนตินให้ได้ก่อนที่พลังเวทจะหมด และจำเป็นต้องเก็บกวาดลูกสมุนที่ขวางทางไปพร้อมกันเท่านั้น
ภายในวิหาร โนอาเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนก เธอแทบไม่อยากเชื่อเลยว่า เครื่องบดเนื้อบนสนามรบตรงหน้านั้นคือพ่อของเธอเอง
สุภาพบุรุษที่พูดจานุ่มนวล ทำอาหาร ทำงานบ้าน และดูแลแม่ของเธอ…ดูเหมือนจะเป็นคนละคนโดยสิ้นเชิง ถึงแม้โนอาจะเคยรู้สึกมาก่อนว่าพ่อของเธออาจไม่ธรรมดา แต่เมื่อได้เห็นกับตาตัวเองในวันนี้ เธอก็เริ่มสงสัยว่าหรือเขาจะเก่งเกินไปเสียแล้ว
“นึกว่า…องค์ชายไม่เก่งเรื่องการต่อสู้ซะอีก” สาวใช้คนหนึ่งพึมพำ
“ใช่แล้ว ฉันเองก็ไม่เคยเห็นเขาในสนามรบมาก่อนเลย”
…หรือเป็นไปได้ว่า มังกรทุกตนที่เคยเห็นองค์ชายในสนามรบ ล้วนถูกเขากำจัดไปหมดแล้ว?
รอสไวส์นอนอยู่บนเตียง ฟังเสียงเหล่าข้ารับใช้พูดถึงชายคนนั้นอย่างเงียบงัน เธอหลับตาลง และหัวใจที่เคยร้อนรนก็เริ่มสงบลงทีละน้อย
“นี่แหละ…คือตัวตนที่แท้จริงของนาย…ลีออน คาสโมด”
บนสนามรบ ลีออนเหยียบหัวของมังกรเพลิงชาดตนหนึ่ง ใช้เป็นแรงดีดกระโดดขึ้นสู่ท้องฟ้า เขายกมือขวาขึ้นสูง รวมรวมพลังสายฟ้าอันมหาศาลไว้ในฝ่ามือ
เวทสายฟ้าแรงระดับ S: ล้างบางสวรรค์พิโรธ!
ลีออนไม่ต้องการเสียเวลาเล่นกับทหารระดับล่างพวกนี้อีกต่อไปแล้ว ด้วยการฟาดสายฟ้าเพียงครั้งเดียว เขาก็ทำให้มังกรเพลิงชาดรอบตัวกลายเป็นเถ้าถ่านในพริบตา
เขาลงสู่พื้นอย่างแผ่วเบา กวาดตามองไปรอบด้าน ก่อนจะหันไปมองเชอร์ลี่ที่อยู่ไม่ไกล
“พาคนของเธอไปจัดการเก็บกวาดมังกรเพลิงชาดที่เหลือให้เรียบร้อยด้วย”
เชอร์ลี่ถึงกับชะงัก เสียงที่ดังออกมาจากใต้ชุดเกราะนั้นฟังดูคุ้นเคยอย่างประหลาด “อ…องค์ชาย?!”
“ลีลาอะไรอยู่ ต้องให้เซ็นชื่อสำเนาถูกต้องด้วยรึไง?”
“ม-ไม่ใช่…ม..หมายถึง…”
“อยากจะพูดอะไร เก็บไว้บอกหลังจากผมฆ่าคอนสแตนตินแล้วกัน รีบไปทำตามคำสั่งสักที”
“เพคะ องค์ชาย!”
เชอร์ลี่รีบนำเหล่าทหารมังกรเงินที่เหลืออยู่บุกเข้าใส่ศัตรูอีกครั้ง การโจมตีต่อเนื่องของลีออนก่อนหน้านี้ได้พลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบแล้ว
ลีออนไม่สามารถเสียพลังเวทไปกับทหารระดับล่างได้อีก และทหารมังกรเงินเหล่านี้ก็ไม่อาจยืนดูเฉย ๆ ได้เช่นกัน พวกเขาต้องลงมือช่วย
งั้นต่อไป…จะเกิดอะไรขึ้นอีก?
ลีออนหันกลับไปมองยังร่างยักษ์ของมังกรสีชาดที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร ถึงเวลาของจานหลักแล้ว
คอนสแตนตินเองก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าสงครามครั้งนี้คงไม่อาจคว้าชัยมาได้ง่าย ๆ เขาปล่อยแอนนา แล้วเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ รูปลักษณ์ของชายหนุ่มผมแดง ดวงตาแดงก่ำ ในชุดคลุมยาวปรากฏขึ้น
ลีออนและคอนสแตนตินค่อย ๆ เดินเข้าหากันทีละก้าว จนเมื่อทั้งสองอยู่ห่างกันราวสิบเมตร พวกเขาก็หยุดลง
ต่างฝ่ายต่างเพ่งพินิจอีกฝ่ายอย่างเงียบงันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่คอนสแตนตินจะเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน “ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะลงมือจริง ๆ”
ในถ้อยคำของเขา ทำให้ลีออนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แม้จะเป็นประโยคสั้น ๆ แต่มันกลับแฝงข้อมูลไว้มากมาย อย่างน้อยที่สุด มันแสดงให้เห็นว่าคอนสแตนตินรู้อยู่ก่อนแล้ว…ว่าภายใต้ชุดเกราะนั้นคือมนุษย์คนหนึ่ง
แต่ลีออนเพิ่งเคยต่อสู้กับพวกทหารของเผ่ามังกรเพลิงชาดเท่านั้น และไม่เคยพบราชามังกรตนนี้มาก่อนเลย
“แล้วคอนสแตนตินรู้เรื่องของเขาได้อย่างไร?”
“ครั้งหนึ่ง เจ้าเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นนักล่ามังกรที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวรรดิ กลับยอมยื่นมือเข้าช่วยเหลือเผ่ามังกร นี่มัน…น่าขันอยู่ไม่น้อยใช่ไหมล่ะ?” คอนสแตนตินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
ไม่เพียงเขาจะรู้ว่าภายใต้ชุดเกราะนั้นคือมนุษย์ แต่ยังสามารถยืนยันตัวตนของลีออนได้อีกด้วย
โดยไม่มีเหตุผลชัดเจน ลีออนรู้สึกมาตลอดว่าการโจมตีของเผ่ามังกรเพลิงชาดในครั้งนี้ ไม่ได้มีเป้าหมายเพียงเพื่อขยายอาณาเขตเท่านั้น เบื้องหลังอาจมีแผนการอันใหญ่โตแอบแฝงอยู่
แต่ในตอนนี้ สถานการณ์กำลังวิกฤต ลีออนไม่มีเวลามาขบคิดเรื่องนี้อีก เขากลั้นความตะลึงไว้ แล้วตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ผมไม่คิดจะข้องแวะเรื่องทะเลาะกันภายในเผ่ามังกร แต่ถ้ามันกระทบถึงภรรยาและลูกผมนั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”
“หึ ภรรยาและลูกงั้นหรือ…คาสโมด ผู้เคยเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด ตอนนี้กลับมีจุดอ่อน เช่นนี้ก็ไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งอีกต่อไปแล้ว”
ลีออนค่อย ๆ ยกมือขวาขึ้น รวมพลังสายฟ้าไว้ที่ฝ่ามืออีกครั้ง
แสงสีฟ้าสะท้อนบนหมวกเกราะที่เปื้อนเลือด ชายผู้อยู่ภายใต้ชุดเกราะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ชัดเจนในทุกถ้อยคำ
“คอนสแตนติน ผมจะสอนให้รู้ว่า อะไรคือความแข็งแกร่งที่แท้จริง และสิ่งเหล่านั้น…ไม่ใช่จุดอ่อน—”
ก่อนจะพูดจบ ร่างของลีออนก็หายไปจากที่เดิมในพริบตา
เมื่อปรากฏตัวอีกครั้ง เขาได้พุ่งเข้าหาคอนสแตนตินด้วยความเร็วสายฟ้าจากด้านข้าง
“สิ่งนั้นคือครอบครัว”
เสียงกรีดร้องของพันปักษาดังกึกก้อง ขณะที่คอนสแตนตินกระโดดหลบออกไป พันปักษาพุ่งกระแทกพื้นจนฝุ่นคลุ้งตลบ
ยังไม่ทันที่คอนสแตนตินจะเตรียมตอบโต้ ลีออนก็พุ่งทะลุกลุ่มฝุ่นออกมาอีกครั้ง มุ่งหน้าเข้าใส่เขาโดยตรง
“เร็วมาก…” คอนสแตนตินอุทานในใจ ความเร็วระดับนี้ เทียบได้กับราชินีมังกรเงินเลยทีเดียว
คอนสแตนตินไม่มีเวลาพอจะโจมตีกลับได้ทัน จึงทำได้เพียงกางปีกมังกรออกในท่าตั้งรับ นี่คือสไตล์การต่อสู้เฉพาะของเผ่ามังกร: ถ้าสู้ไม่ได้…ก็ต้องเปลี่ยนรูปแบบ
ประสบการณ์การต่อสู้อันโชกโชนและสัญชาตญาณในกล้ามเนื้อของลีออนถูกปลุกขึ้นทั้งหมด เขาปรับท่าทางได้ทันเวลา เหยียบขึ้นบนปีกของคอนสแตนติน จากนั้นกระโดดขึ้นไปในอากาศแล้วอ้อมไปด้านหลังของคอนสแตนตินทันที
ก่อนที่คอนสแตนตินจะทันได้ตอบสนอง สายฟ้าก็พุ่งทะลวงเข้าใส่กลางหลังของเขาอย่างจัง เมื่อตัวมังกรใช้ปีกเป็นเกราะป้องกัน ด้านหลังจะกลายเป็นจุดอ่อนที่เปิดโล่งที่สุด
ในการต่อสู้ระยะประชิดเช่นนี้ การโจมตีด้วยสายฟ้าควรจะทะลุผ่านร่างของคอนสแตนตินไปได้แล้ว ทว่าในสายตาของลีออน หากสายฟ้ายังไม่สามารถเจาะร่างศัตรูได้ แสดงว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งมากพอที่เขาจะต้องเอาจริงมากกว่านี้ แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ หลังของคอนสแตนตินนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสจากสายฟ้าไปแล้ว
ลีออนถอนตัวออกจากการโจมตี ถอยห่างจากคอนสแตนติน คอนสแตนตินหอบหายใจแรง กางปีกมังกรออกอย่างช้า ๆ แล้วค่อย ๆ หันกลับมา ดวงตามังกรสีชาดของเขาเต็มไปด้วยความเดือดดาล
“คาสโมด เจ้าได้ปลุกโทสะของข้าแล้ว”
“งั้นหรือ? เดี๋ยวดับลมหายใจนายทิ้งซะ โทสะนายจะได้หลับต่อไง”
“มนุษย์เอ๋ย ชดใช้ความอวดดีด้วยชีวิตเจ้าซะ!”
เสียงคำรามดังกึกก้อง คอนสแตนตินแปรเปลี่ยนกลับเป็นร่างมังกรอีกครั้ง ร่างมนุษย์ของลีออนดูบางเบาและอ่อนแอต่อหน้ามังกรยักษ์ เงามืดขนาดมหึมาทอดทับร่างของเขา แต่ลีออนเคยชินกับภาพเช่นนี้มานานแล้ว เขาเคยพบราชามังกรที่ใหญ่กว่านี้เสียอีก แล้วคอนสแตนตินจะทำให้เขาหวาดกลัวได้อย่างไร?
มังกรสีชาดกางปีกออก แหงนศีรษะขึ้นสูง จากนั้นวงเวทขนาดใหญ่สามวงก็สว่างวาบขึ้นเบื้องหลังเขา
ในวงเวทเหล่านั้น พลังแห่งน้ำแข็ง ไฟ และสายลม หลอมรวมกันกลายเป็นใบมีดนับไม่ถ้วน พุ่งเข้าหาลีออนพร้อมกัน ทว่าลีออนไม่ได้หลบเลี่ยงเลยแม้แต่น้อย เขาตั้งใจจะโต้กลับโดยตรง ด้วยทักษะและความกล้าหาญที่จะเดิมพันชีวิต เขาไม่มีเวลามาวิ่งหลบเล่น ๆ
พลังสายฟ้าไหลเวียนทั่วร่างของเขา เสริมทั้งการป้องกันและความเร็วอย่างมหาศาล ลีออนเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว ทะลุผ่านสายฝนแห่งใบมีดธาตุทั้งสามได้อย่างเฉียบขาด
แม้จะถูกโจมตีใส่ พลังสายฟ้าอันรุนแรงก็สามารถสลายใบมีดธาตุเหล่านั้นได้ ลีออนยิ่งหลบหลีกก็ยิ่งเร็วขึ้น ร่างของเขากลายเป็นเงาเลือนสีฟ้า คล้ายสายฟ้าที่พุ่งทะลวงโจมตีใส่ขาหน้าขนาดมหึมาของคอนสแตนตินอย่างรวดเร็วและแทบมองไม่เห็น
คอนสแตนตินพยายามจะชักขากลับ แต่ก็สายเกินไปแล้ว พลังสายฟ้าที่เอ่อล้นจากร่างของลีออนปะทุออกมาเป็นคลื่นแห่งธาตุสายฟ้า
รอยสักมังกรบนหน้าอกของเขาเริ่มเปล่งแสงสีน้ำเงินเข้มอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และในพริบตา ขาหน้าซ้ายของคอนสแตนตินก็ชาวาบ ไม่หลงเหลือความรู้สึกใด ๆ
คอนสแตนตินก้มศีรษะลง พ่นเปลวเพลิงมังกรใส่ลีออนที่อยู่เบื้องล่างอย่างต่อเนื่อง หวังจะขับไล่เขาออกไป
แต่ความเร็วของลีออนกลับเกินความคาดหมายของเขาไปมาก ก่อนที่อาการชาจะจางหาย ลีออนก็เหยียบลงบนเข่าของเขา แล้วกระโดดขึ้นไปบนหลังของคอนสแตนตินได้อย่างง่ายดาย
ลีออนยืนอยู่บนหลังมังกรของคอนสแตนติน ยกมือขวาขึ้นสูง ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิดก็พลันรวมตัวเป็นกลุ่มเมฆหนาทึบ กลางเมฆเหล่านั้น เสียงฟ้าคำรามกึกก้อง พร้อมแสงสายฟ้าที่แลบวาบไปทั่ว
ในขณะนั้น ลีออนดูราวกับเทพเจ้าแห่งสายฟ้า ผู้ควบคุมธาตุที่ปั่นป่วน ดุดัน และยากจะควบคุมที่สุดในธรรมชาติไว้ในกำมืออย่างน่าอัศจรรย์
เวทสายฟ้าระดับ S: เพรียกสวรรค์พันอัสนี
ตูม! —
“โฮกกกกก!!!”
เสียงสายฟ้าสะท้านสวรรค์กระหน่ำลงมาพร้อมกับเสียงคำรามแห่งความเจ็บปวดของคอนสแตนตินอย่างน่าสยดสยอง กระดูกสันหลัง ลำตัวทั้งส่วนของเขา สูญเสียความรู้สึกไปทั้งหมด มนุษย์คนหนึ่ง…เป็นไปได้อย่างไรที่มนุษย์จะทรงพลังได้ถึงเพียงนี้!
คอนสแตนตินกระพือปีกอย่างบ้าคลั่ง พยายามสะบัดลีออนให้หลุดจากหลัง แต่ในเวลานี้ ลีออนกลับเยียบเย็นดั่งเพชฌฆาตไร้หัวใจ เป้าหมายของเขามีเพียงหนึ่งเดียว — สังหารมังกรเบื้องล่างให้สิ้น
เวทเพรียกสวรรค์พันอัสนีเมื่อครู่ ได้ใช้พลังเวทของเขาไปมหาศาล ดังนั้น…
“นี่จะเป็นกระบวนท่าสุดท้าย คอนสแตนติน”
ลีออนประกบมือเข้าหากัน จากนั้นค่อย ๆ แยกออก สร้างรูปทรงของดาบยาวขึ้นจากสายฟ้าในฝ่ามือ เขาจับดาบสายฟ้านั้นแน่น แล้วแทงทะลุเกล็ดมังกรบนหลังของคอนสแตนตินอย่างไร้ความปรานี
เลือดเนื้อฉีกขาด เสียงคร่ำครวญของราชามังกรกึกก้อง — สำหรับลีออน คาสโมด นักล่ามังกรผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด นี่คือช่วงเวลาที่งดงามที่สุด
แต่เรื่องราว…ยังไม่จบเพียงเท่านี้
ลีออนกระชับดาบสายฟ้าในมือแน่น แล้วพุ่งทะยานไปตามแผ่นหลังอันกว้างใหญ่ของคอนสแตนติน คมดาบพาดยาวไปตามแนวกระดูกสันหลัง มุ่งสู่ต้นคอของมังกร
ไม่ว่าลีออนจะผ่านไปที่ใด สายฟ้าก็แลบวาบ เลือดเนื้อปลิวว่อน เกล็ดมังกรแตกกระจาย เสียงคร่ำครวญของคอนสแตนตินทำให้ทั้งสองเผ่ามังกรที่ยังคงรบกันอยู่ถึงกับหยุดชะงัก
ไม่ว่าจะเป็นเผ่ามังกรเพลิงชาดหรือเผ่ามังกรเงิน ต่างจ้องมองภาพเบื้องหน้าด้วยความตะลึงงัน ร่างขนาดมหึมาของคอนสแตนตินนอนฟุบลงกับพื้นราวกับภูเขาที่ถล่มลงมา เลือดมังกรสีชาดไหลนองราวกับแม่น้ำพาดผ่านแผ่นหลังของเขา หัวที่เคยยิ่งใหญ่และหยิ่งทะนงของเขาหลุบต่ำอย่างอ่อนแรงหลังจากดิ้นรนอยู่ครู่หนึ่ง
ก่อนที่มังกรในสนามรบจะทันได้ตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้น ร่างหนึ่งก็ค่อย ๆ ปรากฏตัวขึ้นบนหัวของคอนสแตนตินอย่างช้า ๆ
ลีออนถือดาบสายฟ้าไว้ในมือขวา ยกเท้าก้าวขึ้นเหยียบบนหน้าผากของคอนสแตนติน
หลังการสู้รบอันดุเดือดตลอดทั้งคืน ฟ้าก็เริ่มสาง พระอาทิตย์ค่อย ๆ โผล่พ้นขอบฟ้า ขับไล่ความมืดและความเย็นออกไป แสงแรกแห่งวันสาดส่องลงบนชุดเกราะสีเงินดำของเขา ราวกับพิธีชำระล้างศักดิ์สิทธิ์
เหล่ามังกรทั้งหมดต่างจ้องมองเขา สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ความตกตะลึง หรือแม้แต่ความเคียดแค้น แต่เขาไม่สนใจ ทุกสิ่งที่เขาทำ ก็เพื่อปกป้องครอบครัวของตน
“รักษาครอบครัวจอมปลอมนี้ไว้” นั่นคือคำสัญญาที่เขาให้ไว้กับรอสไวส์ เขาแกว่งดาบสายฟ้าอย่างช้า ๆ แล้วฟันใส่เขามังกรของคอนสแตนตินจนขาดสะบั้น
คอนสแตนตินหายใจอย่างรวยริน ลีออนค่อย ๆ ย่อตัวลงเหนือเขา มองเข้าไปในดวงตาของมังกรที่ค่อย ๆ เลือนหาย แล้วพูดอย่างสงบนิ่ง
“บอกแล้วใช่มั้ยว่าผมจะสอนให้นายรู้ว่าอะไรคือความแข็งแกร่งเหนือใคร”
บท 161: ชายที่แกร่งที่สุดกับภรรยาของเขา คลิกอ่านที่นี่
มังกรยักษ์ใต้ฝ่าเท้าของเขาปล่อยลมหายใจสุดท้ายออกมา ก่อนที่ร่างจะไร้ชีวิต
หนึ่งในราชามังกรที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งเป็นตัวแทนแห่ง “เปลวเพลิง” ของเผ่ามังกรเพลิงชาด ได้ล้มลงแล้ว
ไม่มีข้อกังขาใด ๆ คอนสแตนตินคือหนึ่งในสามราชามังกรที่แข็งแกร่งที่สุดที่ลีออนเคยสังหารมา
หากสถานการณ์เอื้ออำนวย ลีออนคงอยากจะดวลกับคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามเช่นนี้อีกสักสองสามยก
แต่โชคร้าย เขามี “ภารกิจที่บ้าน” รออยู่ และไม่อาจเสียเวลาที่นี่ได้มากไปกว่านี้
เขาต้องจบศึกให้เร็ว แล้วรีบกลับบ้าน เพราะท้ายที่สุดแล้ว…เขาอยากกลับไปดูลูกคนที่สองเต็มทีแล้ว
ลีออนกระโดดลงจากหัวของคอนสแตนติน
เชอร์ลี่ที่บาดเจ็บ มือขวากุมไหล่ไว้ เดินกะเผลกออกมาพร้อมกับเหล่านักรบมังกรเงินอีกหลายคน
“องค์ชาย…ไม่รู้มาก่อนเลยว่าท่านแข็งแกร่งถึงเพียงนี้…” เชอร์ลี่เอ่ยด้วยความทึ่ง
โถ สามปีก่อน ผมอาจเคยต่อสู้กับเผ่ามังกรเงินด้วยซ้ำ
ลีออนถอดหมวกเกราะออก เผยให้เห็นผมสีดำและใบหน้าส่วนใหญ่ของเขาที่เปรอะไปด้วยเลือด ซึ่งไหลซึมออกมาจากช่องว่างของชุดเกราะ
โดยปกติแล้ว สภาพแบบนี้อาจดูน่าสยดสยองไม่น้อย แต่ในสนามรบ ที่การเสียอวัยวะเป็นเรื่องปกติ แค่มีเลือดเปรอะเล็กน้อยก็ไม่ถือเป็นอะไรใหญ่โต ถือว่าเรื่องเล็กน้อย
ลีออนหนีบหมวกเกราะไว้ใต้แขน แล้วกวาดตามองทั่วสนามรบรอบตัวเขา เมื่อคอนสแตนตินล้มลง เหล่าทหารของเผ่ามังกรเพลิงชาดที่ไร้ผู้นำก็เริ่มแตกกระเจิง หลบหนีกันอย่างไร้ทิศทาง
อย่างไรก็ตาม เผ่ามังกรเงินเองก็ได้รับความสูญเสียอย่างหนัก แอนนาในระยะไม่ไกลนักก็บาดเจ็บสาหัส ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน หากไล่ล่าศัตรูที่แตกทัพในตอนนี้ อาจทำให้เกิดการสูญเสียโดยไม่จำเป็น
หลังจากไตร่ตรองเพียงครู่ ผมจึงกล่าวว่า “การศึกจบลงแล้ว ไม่ต้องไล่ตามศัตรูที่หลบหนีไป ให้มุ่งเน้นการจัดระเบียบกองกำลังใหม่ จัดการกับศพของคอนสแตนติน ตัดหัวมังกรของเขาไปแขวนไว้ที่ชายแดนมังกรเงิน จากนั้นส่งทหารชั้นยอดที่เหลือไปประจำการที่ภูเขาด้านหลัง เผื่อมีการซุ่มโจมตีจากศัตรูที่หลงเหลือ และสุดท้าย—”
ผมหันไปมองแอนนาที่เพิ่งถูกคอนสแตนตินเล่นงานอย่างหนัก “ถ้าไม่ส่งหน่วยแพทย์ไปตอนนี้ หัวหน้าสาวใช้คงได้ไปเที่ยวเมืองผีกับคอนสแตนตินแล้วล่ะ”
เชอร์ลี่ได้สติ รีบลากร่างที่บาดเจ็บของเธอไปยังแอนนา “หัวหน้าสาวใช้! ทนไว้นะคะ! หน่วยแพทย์กำลังจะมาถึงแล้ว!”
แอนนา: “เหนื่อยชะมัดเลย การมีชีวิตอยู่น่ะก็ดี แต่จะตายไปมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนักหรอก”
เหล่ามังกรเงินเริ่มเคลื่อนไหวทันที บ้างก็ตัดหัวศัตรูที่ยังเหลือ บ้างก็รีบช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ทหารบางกลุ่มรวมตัวกันเป็นวงกลม ซ้อนหางของพวกตนขึ้นไปคล้ายเสาโทเท็ม ราวกับเป็นพิธีเฉลิมฉลองบางอย่าง
พอเห็นภาพนั้น ผมก็ยิ้มออกมา แล้วอดที่จะกล่าวแซวไม่ได้ว่า “เฉลิมฉลองกันได้โรแมนติกดีนี่นะ”
จากนั้นผมก็หันหน้ากลับไป แล้วก้าวเดินอย่างเหนื่อยล้า มุ่งหน้าสู่วิหารศักดิ์สิทธิ์ของมังกรเงิน
“เฮ้อ…พวกมังกรเงินนี่มันไร้มารยาทจริง ๆ อุตส่าห์ช่วยกำจัดคอนสแตนตินให้แท้ ๆ ดันไม่มีมังกรสักตัวจะออกมาช่วยพยุงผมกลับเลย”
ผบบ่นในใจเบา ๆ “เจอแบบนี้บอกเลย ต่อไปอย่าหวังว่าจะออกหน้าสู้ จะหนีไปนอนอู้อยู่ข้างบ่อน้ำ ไม่ทำอะไรดีกว่า”
ขณะกำลังบ่นพึมพำกับตัวเอง ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาจากด้านหน้า พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นมีลานเดินนำหน้า โดยมีทหารเผ่ามังกรหลายคนแบกเปลสนามตามมาด้วย ครูสอนโยคะกับเหล่าทหารรีบวิ่งตรงเข้ามาหาผม แล้ววางเปลลงตรงหน้าผม
ผมชะงักเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงมองเปลสนามนั้น “นี่…นี่ไม่ใช่ของผมหรอกใช่ไหม?”
“ใช่เพคะ องค์ชาย กรุณานอนลงด้วยค่ะ” มีลานกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
“…ผมว่ายังไม่ถึงขั้นต้องนอนเปลนะ”
ตลอดชีวิตของผมที่ผ่านศึกมานับไม่ถ้วน มีแค่ครั้งเดียวเท่านั้นที่ต้องใช้เปลสนาม — และมันก็ไม่ใช่เพราะบาดเจ็บจากการสู้รบด้วยซ้ำ แต่เกิดขึ้นตอนผมเพิ่งเข้าร่วมกองทัพล่ามังกรใหม่ ๆ
เย็นวันหนึ่ง ผมเคราะห์ร้ายไปกินอาหารเย็นที่มีทั้งมะเขือยาวกับแครอท…แล้วคืนนั้น ว่าที่นักล่ามังกรผู้แข็งแกร่งที่สุดก็ถูกหามขึ้นเปลส่งโรงพยาบาล
เรื่องนั้นทำให้อาจารย์ของผมหัวเราะล้ออยู่นานถึงสองสัปดาห์เต็ม ด้วยประโยคที่ว่า “ยังไม่ทันได้ออกรบก็ตายเสียก่อนเพราะมะเขือกับแครอทเนี่ยนะ”
เอาเถอะ…วีรบุรุษย่อมไม่ยึดติดกับเกียรติยศในอดีต
ผมถอนหายใจ ดึงสติตัวเองกลับมา แล้วก็ยอมลงไปนอนบนเปลอย่างว่าง่าย ไหน ๆ ก็ถูกเรียกด้วยความเคารพว่า “องค์ชาย” ขนาดนี้แล้ว จะไม่ขอรับสิทธิ์แบบราชวงศ์หน่อยก็คงเสียดายอยู่
ทหารสองนายช่วยกันยกเปลสนาม หนึ่งคนอยู่ด้านหน้า อีกคนอยู่ด้านหลัง แบกผมกลับไปยังวิหารศักดิ์สิทธิ์ของมังกรเงิน เมื่อมาถึงลานหน้าวิหาร ผมก็ส่งสัญญาณให้พวกเขาวางผมลง
“ไม่เป็นไรพะยะค่ะ องค์ชาย พวกเรายกท่านขึ้นไปข้างบนได้” หนึ่งในทหารกล่าวด้วยความสุภาพ
ผมโบกมือปฏิเสธ “ไม่ต้องหรอก ผมเดินขึ้นไปเองได้”
แม้ว่ามานาของผมจะหมดเกลี้ยงภายในครึ่งชั่วโมง ทำให้เหนื่อยล้าแทบหมดสภาพ แต่การถูกหามขึ้นเปลเข้าไปในวิหารแบบนั้น…ผมทำใจไม่ได้จริง ๆ
ถ้าลูกสาวของผมมาเห็นภาพแบบนั้นเข้า พวกเธอคงคิดว่าพ่อบาดเจ็บสาหัสแน่ ๆ
ในแง่หนึ่ง ผมเป็นคนที่มีนิสัยชอบแสดงความเข้มแข็งอยู่บ้าง ผมเชื่อว่าในฐานะพ่อที่ดี หรือ…สามีที่ดี ไม่ว่าจะผ่านอะไรมาแค่ไหนข้างนอก พอก้าวผ่านประตูบ้าน ผมต้องอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเสมอ
ถ้าเป็นสมัยอดีต วีรกรรมล่าสุดที่จัดการราชามังกร ผมอาจจะอวดเขามังกรของคอนสแตนตินให้พวกพ้องดู พลางคุยโวว่า “เป็นไง โคตรเจ๋งเลยใช่มั้ยล่ะ!” พร้อมรับสายตาอิจฉาจากทุกคนอย่างภาคภูมิใจ แต่ตอนนี้ สิ่งเดียวที่ผมอยากทำ…คือกลับไปกอดโนอาและมูน แล้วดูแลภรรยาที่กำลังคลอดลูกอยู่
เมื่อถอดเกราะออก ปล่อยพลังสายฟ้าให้จางหายไป เขาก็กลับมาเป็น “คุณพ่อที่ดี” ของลูกสาว และ…สามีกำมะลอของรอสไวส์
เคร้ง—
เสียงรองเท้าเหล็กกระทบกับขั้นบันไดหินของวิหารดังก้อง ขณะที่เขาก้าวเดินอย่างช้า ๆ หนักหน่วง
เมื่อเข้าสู่วิหาร ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องบรรทมของรอสไวส์ เขาก็ถอดชุดเกราะดำทองออก แล้ววางไว้ชั่วคราวในห้องเด็กข้าง ๆ
ถือว่าเป็นโอกาสให้ “สหายเก่า” ได้เห็นบ้านที่เขาอาศัยอยู่มาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาเสียด้วย
(เกราะรถศึกนิล: “ขอบใจมากจริง ๆ นะ”)
ผมอาศัยจังหวะนี้ล้างเลือดออกจากใบหน้าในห้องน้ำของห้องเด็ก
จะให้ลูกสาวตกใจตอนเห็นหน้าพ่อไม่ได้
หลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อย ผมก็เดินไปยังห้องนอนของรอสไวส์
แพทย์หลายคนยังคงล้อมอยู่รอบเตียงของรอสไวส์ เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู โนอาก็ชะโงกหัวเล็ก ๆ ออกมาจากระเบียง พอเห็นว่าเป็นผม เธอก็รีบดึงมือของมูนแล้ววิ่งเข้ามา
“พ่อคะ!”
เจ้ามังกรน้อยทั้งสองโผเข้ากอดผมจากทั้งสองข้าง ซุกหน้าลงที่เอวของผม ผมซึ่งแทบยืนไม่ไหวต้องพยายามประคองตัวแล้วโอบกอดพวกเธอกลับให้ได้มากที่สุด ผมลูบหัวลูกทั้งสองคนแล้วถามด้วยน้ำเสียงหยอกล้อว่า “พ่อเท่มั้ยลูก?”
“เท่ เท่มาก! พ่อเท่ที่สุดในโลกเลย!”
โนอาปล่อยคำชมออกมารัว ๆ อย่างตื่นเต้น
มูนที่กำลังสั่นพู่ผมเล็ก ๆ บนหัวก็เสริมขึ้นมา “พ่อคือมังกรที่แข็งแกร่งเป็นอันดับสองที่มูนเคยเห็นเลย!”
ผมกระพริบตาแป๊บหนึ่ง “แล้วอันดับหนึ่งเป็นใครล่ะ?”
“ก็แม่ไงคะ เพราะพ่อฟังแม่ทุกอย่างเลย” มังกรน้อยพูดด้วยสีหน้าเอาจริงเอาจัง
ผู้แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลไม่ใช่ซูเปอร์ไซย่า…แต่คือภรรยาของซูเปอร์ไซย่า—เออ ก็สมเหตุสมผลดีเหมือนกันนะ
แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็อดรู้สึกแปลกใจเล็ก ๆ ไม่ได้ — ผมนี่ดูเหมือนคนที่กลัวภรรยาข่มขนาดนั้นเลยเหรอ? ไม่มีทางหรอก เราสองคนเท่าเทียมกันนะ ผมยังเคยชนะเธอแบบตัวต่อตัวตั้งหลายครั้งด้วย
ผมหันไปมองที่ห้องนอน แพทย์ที่ล้อมอยู่ข้างเตียงต่างก็ถอยออกอย่างเคารพ เสียงร้องของทารกบนเตียงใหญ่ดูเหมือนจะประกาศทุกอย่างให้โลกรู้ ลูกสาวทั้งสองยอมปล่อยมือจากผมอย่างว่าง่าย
ผมก้าวเข้าไปใกล้เตียง หญิงงามผมสีเงินนอนอ่อนแรงอยู่บนนั้น เส้นผมบางส่วนยุ่งเล็กน้อย เกาะอยู่ตามแก้มของเธอ ข้างกายเธอคือทารกที่เพิ่งเกิด ถูกห่อด้วยผ้าห่มอย่างอบอุ่น
หัวใจของผมพองโตไปด้วยความโล่งใจและความปีติ ผมก้าวเข้าไปใกล้อย่างระมัดระวัง ดวงตาค่อย ๆ อ่อนลงเมื่อมองไปยังรอสไวส์และลูกน้อย
บรรยากาศในห้องอบอวลไปด้วยความสงบและการเริ่มต้นใหม่ ผมคุกเข่าลงข้างเตียง ลูบเส้นผมที่ปรกแก้มของรอสไวส์ออกอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะมือน้อย ๆ ของทารกแรกเกิดอย่างอ่อนโยน
“ยินดีต้อนรับสู่โลกใบนี้นะ” ผมกระซิบเบา ๆ เต็มเปี่ยมด้วยความซาบซึ้งที่มีครอบครัวอยู่เคียงข้าง
เสียงร้องของเด็กทารกดังต่อเนื่องไปทั่วทั้งห้อง ดูดกลืนอากาศบริสุทธิ์ของโลกใบใหม่นี้อย่างกระตือรือร้น แสงแรกของวันสาดส่องผ่านหน้าต่าง ขณะที่สายลมยามเช้าพัดม่านบางให้พลิ้วไหว
ท่ามกลางเสียงร้องเหล่านั้น ดวงตาสีดำและสีเงินสบตากันนิ่ง — ประสานเข้าหากันโดยไม่ต้องเอื้อนเอ่ยวาจา
ในขณะนั้น ถ้อยคำใด ๆ ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป
เพียงแค่การมองตากัน ก็เพียงพอที่จะมอบความอบอุ่นและความเข้าใจ…ที่เหนือกว่าคำพูดใด ๆ
บท 162: ปากของคุณพ่อแข็งมากเลยเหรอ? คลิกอ่านที่นี่
เหล่าแพทย์ต่างก็ถอยออกจากห้องบรรทมของรอสไวส์อย่างเงียบเชียบ
เจ้าตัวน้อยทั้งสองก็นั่งรออยู่อย่างว่าง่าย มอบช่วงเวลาแห่งความสงบที่หายากนี้ให้กับพ่อแม่ของพวกเธอ
ข้างเตียงใหญ่ หนึ่งบุรุษ หนึ่งมังกรสบตากันนิ่ง
หลังจากสบตากันอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของผมก็ค่อย ๆ หันไปยังทารกน้อย
ผมอ้าปาก เตรียมจะเอ่ยถามบางอย่าง
แต่คำถามมันมีมากเกินไป จนในช่วงเวลานั้น ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี
เมื่อสิบนาทีก่อน ผมยังเป็นเทพแห่งสงครามที่เด็ดขาดบนสนามรบ แต่ตอนนี้ พออยู่ต่อหน้าภรรยาและลูกน้อย กลับรู้สึกลังเลและระมัดระวังอย่างประหลาด
เพราะผม…ไม่เคยต้อนรับการถือกำเนิดของชีวิตใหม่มาก่อนเลย
พูดกันตามตรง นี่น่าจะถือเป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสกับความรู้สึกตื่นเต้นแบบ “ผมเป็นพ่อคนแล้วจริง ๆ”
เพราะตอนโนอากับมูนเกิด ผมยังอยู่ในอาการโคม่า
ครั้งแรกที่ได้เห็นมูน มันให้ความรู้สึกราวกับว่า “อยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นพ่อ” ซึ่งแตกต่างจากความรู้สึกอบอุ่นใจเมื่อได้ต้อนรับเด็กคนนี้ด้วยตัวเองโดยสิ้นเชิง
แน่นอนว่า ผมไม่มีวันลำเอียงรักลูกคนใดคนหนึ่งมากกว่ากันแน่ ความรักที่ผมมีให้ลูกสาวทั้งสองนั้นเท่าเทียมและบริสุทธิ์
แต่ตอนนี้ ผมต้องหาวิธีปรับสภาพจิตใจของตัวเอง และหาคำพูดที่เหมาะสมจะพูดออกมาให้ได้
พอเห็นท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ ของผมที่ไม่รู้จะเริ่มยังไง รอสไวส์ก็ยิ้มอ่อนออกมา แล้วตัดสินใจเป็นฝ่ายทำลายความเงียบก่อน
“เราได้ลูกสาวนะ”
ดวงตาของผมเป็นประกายทันที “อ้อ…นั่นมัน…ยอดเยี่ยมมากเลยนะ”
ลูกสาวคือแก้วตาดวงใจ ลูกสาวคือสิ่งวิเศษ ลูกสาวคือน้ำผึ้งหวานในหัวใจของคุณพ่อ
แม้ที่บ้านจะมีเจ้าหวานใจตัวน้อยอยู่แล้วถึงสองคน แต่บนโลกนี้ไม่มีพ่อคนไหนที่ปฏิเสธเจ้าตัวเล็กอีกคนได้หรอก
ภายนอกผมอาจดูสงบ แต่ในใจตอนนี้ดีใจจนอยากจะขุดคอนสแตนตินขึ้นมาจากหลุมแล้วฆ่าอีกรอบเลยด้วยซ้ำ
“อยากอุ้มไหม?” รอสไวส์ถาม
ผมรีบตั้งตัว ปัดฝุ่นกับรอยเลือดออกจากตัวอย่างลนลาน
รอสไวส์ยิ้มบาง ๆ “ไม่เป็นไรหรอก ลูกสาวตัวน้อยของเราคงไม่ถือเรื่องรูปลักษณ์ของคุณพ่อหรอก จริงไหม? มาเถอะ อุ้มหน่อยสิ ฉัน—”
เธอพยายามจะลุกขึ้นเพื่ออุ้มลูกแล้วยื่นให้ผม แต่เพราะยังอ่อนแรงจากการคลอด แม้แต่จะนั่งก็ยังลำบาก สุดท้ายรอสไวส์ก็ต้องยอมแพ้ “อา…ฉันนั่งไม่ไหวแล้วล่ะ งั้นนายมาอุ้มแทนก็แล้วกัน อุ้มเด็กเป็นใช่ไหม?”
“ผะ…ผมไม่เคยเรียนเลย”
รอสไวส์ปรายตามองเขาอย่างขี้เล่น “นายเนี่ยนะ… เดี๋ยวฉันจะสอนเอง”
มูนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อยากจะยกมือขึ้นบอกว่า พ่อมักจะอุ้มเธอบ่อย ๆ แต่พอคิดได้ว่าน้องสาวคนใหม่น่าจะตัวเล็กต่างจากเธอ แถมพ่อก็ดูอยากให้แม่เป็นคนสอนจริง ๆ เธอจึงเลือกที่จะเงียบไว้
ก็ในเมื่อเธอกลายเป็นพี่สาวแล้ว คำพูดนั้นว่าไงนะ?
อ้อ ใช่…ต้องรู้จักอยู่เป็น!
“ก่อนอื่น นายต้องใช้มือข้างหนึ่งประคองที่คอเด็ก อีกข้างก็ประคองก้น จากนั้นก็ค่อย ๆ ให้น้องนอนในอ้อมแขน” รอสไวส์อธิบาย
ผมทำตามคำแนะนำของเธออย่างระมัดระวัง พลางพูดว่า “ดูคล่องมากเลยนะ…”
“คิดว่าผู้หญิงที่เลี้ยงลูกแฝดมาก่อนจะไม่รู้วิธีอุ้มเด็กหรือไง?”
“ผมชมอยู่นะ”
ผมค่อย ๆ ยกตัวลูกสาวขึ้นตามคำแนะนำของรอสไวส์ ปล่อยให้น้องนอนพิงอยู่ในอ้อมแขนของผมอย่างพอดี
จริง ๆ แล้ว สำหรับคุณพ่อที่มีลูกคนที่สอง การอุ้มเด็กทารกแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่สำหรับผมแล้ว มันแทบจะยากพอ ๆ กับการสังหารมังกรครั้งแรกเลยด้วยซ้ำ
ถ้ามองจากข้างนอก ตอนนั้นคงเหมือนผมกำลังอุ้มแท่งระเบิด TNT มากกว่าทารกน้อยด้วยซ้ำ แต่รอสไวส์ก็ไม่ได้ล้อเลียนอะไรผม เพราะในช่วงเวลาแบบนี้ มันก็ต้องอดทนกับนักล่ามังกรหัวทื่อสักหน่อย
เธอเฝ้ารออย่างเงียบ ๆ จนผมเริ่มคุ้นชินกับการอุ้มทารก แล้วจึงถามว่า “รู้สึกยังไง? ง่ายกว่าที่คิดไหมล่ะ?”
ผมพยักหน้าเบา ๆ
ตัวลูกเบา แต่ในอ้อมแขนของผม เธอกลับรู้สึกหนักราวกับภูเขา แก้มกลมนุ่มนิ่มของเธอน่ารักน่าเอ็นดู และเมื่อได้ซุกอยู่ในอ้อมกอดของพ่อ เสียงร้องไห้ของเธอก็ค่อย ๆ เงียบลงทีละน้อย
ผมรู้สึกปีติอย่างล้นใจ รอสไวส์พูดถูกจริง ๆ — ตอนโนอากับมูนยังเป็นทารก และมักร้องไห้ไม่หยุด รอสไวส์ก็มักจะเอาตัวพวกเธอมาวางข้างผม แม้ตอนนั้นผมยังอยู่ในอาการโคม่า พวกเธอก็ยังหยุดร้องได้อย่างน่าอัศจรรย์ และตอนนี้ ลูกคนเล็กก็เป็นเหมือนกัน
ดูเหมือนว่า…ผมจะมอบความรู้สึกปลอดภัยให้กับทุกคนรอบตัวได้เสมอ
เมื่อมองไปที่ลูกสาวตัวน้อยในอ้อมแขนอยู่นาน ผมก็พูดขึ้นว่า “หน้าคล้ายผมนะ”
รอสไวส์: “หืม?”
“ไม่เห็นจะใช่เลย ชัด ๆ ว่าหน้าคล้ายฉันมากกว่า”
“โธ่ เธอน่ะเพิ่งคลอด หัวคงยังเบลอ ๆ อยู่ ลูกเราหน้าคล้ายผมชัด ๆ” ผมเถียงกลับด้วยเหตุผลแน่นหนา
“นายนี่มัน…!”
ก็ได้ ๆ คาสโมดก็ไม่เลวเท่าไหร่ เห็นแก่ที่นาย เอ่อ… พยายามปกป้องบ้านอย่างเต็มที่ คราวนี้จะยกโทษให้ก็แล้วกัน แต่เรื่องลูกคนถัดไปน่ะ—
เดี๋ยวนะ ลูกคนถัดไปอะไรกัน ไม่มี ไม่มีเด็ดขาด!
รอสไวส์รีบมุดกลับเข้าไปใต้ผ้าห่ม ซ่อนใบหน้าไว้ครึ่งหนึ่ง โผล่ออกมาเพียงดวงตาคู่สวยกับปลายจมูกเล็ก ๆ
“อ้อ จริงสิ”
เสียงของรอสไวส์อู้อี้ลอดออกมาจากใต้ผ้าห่ม
“หืม?”
ผมตอบรับโดยที่สายตายังคงจับจ้องไปที่เจ้าตัวน้อยอย่างเต็มที่ แม้จะตอบรับ แต่สายตาไม่ละจากลูกแม้แต่นิด
“เจ้ามังกรบ้าคอนสแตนตินล่ะ เป็นยังไงบ้าง?”
“อุแว้~ เรียกพ่อหน่อย~ เร็วสิ~ พ่ออออ~~~”
ลูก: หนูดูเหมือนพูดได้ตอนนี้เหรอ? แบบนี้มันกดดันเกินไปแล้วนะ พ่อ…
รอสไวส์กลอกตาเบา ๆ โดยไม่พูดอะไร “ลีออน นาย ฉันถามอยู่นะ สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง? นาย…ได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?”
จริง ๆ แล้วเธอพยายามจะวกกลับเข้าประเด็นเพื่อจะถามว่า “ลีออน นายเจ็บตรงไหนไหม?” แต่ผู้ชายคนนี้มัวแต่จ้องลูกสาวตัวน้อยจนไม่ละสายตาไปไหนเลย
เป็นไงล่ะ…สมน้ำหน้า ทาสลูกสาวเข้าไปเต็ม ๆ!
“ผมไม่เป็นไร ส่วนคอนสแตนติน…ก็แค่จัดหนักจนตาย”
“ก็แค่จัดหนักจนตาย…”
รอสไวส์พึมพำอย่างไม่เชื่อหู ก่อนจะอดทึ่งในความสามารถของลีออนตอนอยู่ในช่วงพีคไม่ได้
หลังจากสังหารราชามังกรอย่างคอนสแตนตินได้โดยแทบไม่บาดเจ็บ แล้วกลับบ้านมากอดลูกสาว แหย่ภรรยา ปลอบลูกคนที่สอง—สำหรับลีออนแล้ว มันก็แค่เรื่องกล้วย ๆ
ผู้ชายประเภทนี้ที่แข็งแกร่งจนเกือบผิดธรรมชาติ… คิด ๆ ดูแล้ว เว้นเสียแต่จะหาหนอนบ่อนไส้มาแทงข้างหลัง ไม่งั้นก็แทบไม่มีทางเอาชนะเขาได้ซึ่ง ๆ หน้าเลยจริง ๆ
“ดูจมูกนี่สิ ดูหูนี่สิ ปากนี่อีก—” ลีออนกำลังเล่นเกมจับคู่ความเหมือนอยู่ข้าง ๆ
รอสไวส์กะพริบตา “มีอะไรหรือ?”
“ไม่ว่าจะมองมุมไหน ลูกก็หน้าคล้ายผมชัด ๆ” ผมยิ้มอย่างภูมิใจในความเป็นพ่อ
รอสไวส์แทบจะกลอกตาจนลูกตาทะลุขึ้นไปบนฟ้า “ถ้าจะบอกว่าคล้ายตรงส่วนอื่นฉันก็พอรับได้ แต่ว่าปากเนี่ย…อย่าให้เหมือนนายเลยจะดีกว่า”
“ทำไมล่ะ?”
“ปากของนายมันแข็งขนาดไหน ใคร ๆ ก็รู้ จะมีประโยชน์อะไรล่ะ?”
“ปากแข็งเหรอ? ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
ผมหันไปมองลูกสาวสองคนที่แอบฟังอยู่แถวระเบียง “โนอา มูน พ่เป็นคนปากแข็งเหรอ?”
โนอา & มูน: (๑‾ ꇴ ‾๑) อื้ม ๆ!
“…ลูกไม่รู้อะไรซะแล้ว ดูเลยนะ น้องสุดท้องนี่แหละจะพูดความจริงให้ฟัง”
พูดจบ ผมก็ก้มหน้าลงมองลูกสาวคนเล็กด้วยความเอ็นดูและพอใจ “ลูกต้องเข้าข้างพ่อเสมอนะ รู้ไหม?”
ทันทีที่พูดจบ เด็กน้อยที่เพิ่งหยุดร้องเมื่อครู่ ก็ร้องจ้าออกมาอีกครั้งทันที “แว้~ แว้~~”
ลีออน: ?
ก็ได้ ๆ ดูเหมือนว่าคาสโมดจะผิดเสมออีกตามเคย
ว่าไปลูกคนต่อมางั้นเหรอ?
งั้นเรามาลองดูกันหน่อยก็แล้วกัน ว่าจะผมจะมีลูกคนถัดไปอีกมั้ย
แค่นี้มันก็เหมือนกับการสุ่มกาชานั่นแหละ — พวกมนุษย์อย่างเราเก่งเรื่องนี้จะตายไป